เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
16 พฤศจิกายน 2565 ที่ บก.ปอท. ศาสตราจารย์ ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. และพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีบุคคลไม่หวังดี ทำข่าวปลอมผ่าน แอพพลิเคชั่นไลน์ ว่า นายไชยันต์ อาจารย์รัฐศาสตร์จุฬาฯ เสนอแนะให้ปิดจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ พร้อมแนบลิงก์เว็บสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือข่าวปลอมดังกล่าวนั้น
ทำให้นายไชยันต์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวบัญชีชื่อ ”Chaiyan Chaiyaporn” แจ้งว่า….
“กล่าวหาว่าผู้อื่นพูดในสิ่งที่เขาไม่ได้พูด โดยแนบลิงค์สำนักข่าวที่เกี่ยวกับบุคคลนั้น ทั้งที่เนื้อข่าวไม่มีข้อความว่าเขาพูดเช่นนั้นเลย เพื่อทำให้ผู้ที่อ่านข้อความดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้อ่านเนื้อหาตามลิงก์แนบเกิดหลงเชื่อ ถือเป็นหนึ่งในวิธีการ "สร้างข่าวปลอม" ที่พบเห็นบ่อยครั้ง จึงขอความกรุณาผู้อ่านที่ได้รับข้อความดังกล่าวไม่แชร์ ไม่ส่งต่อ ไม่เช่นนั้นอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์”
นายไชยันต์ กล่าวว่า ตนมาพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อแจ้งความ ให้ทำการสืบสวนสอบสวน หาตัวผู้ที่นำเอาข้อความที่ตนไม่เคยพูด และไม่เคยเขียน และไม่เคยให้สัมภาษณ์ มาใส่ปนเข้าไปในข่าว ที่ตนได้โพสต์ในเฟซบุ๊กทวงถามทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกี่ยวกับเรื่องการตักเตือนองค์การบริหารนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า มีหนังสือเตือน หรือว่าได้กล่าวคาดโทษอะไรบ้าง ก็มีผู้ไม่ประสงค์ดีได้นำไปต่อเติมข้อความ ที่ไม่ใช่ของตนลงไป ซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จ
ในข้อความเท็จดังกล่าว ไปเขียนว่า ตนเสนอให้ปิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และให้เปลี่ยนสถานที่ หรือพื้นที่มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่ง ไปทำอนุสรสถานรัชกาลที่ 5 และ รัชกาลที่ 9 หรือไม่ก็ขยายพื้นที่โรงพยาบาลจุฬาฯ และ โรงพยาบาลศิริราช และยังบอกอีกว่า ให้นิสิตนักศึกษาทั้งสองมหาวิทยาลัย ไปเรียนเอกชนเอา พูดง่าย ๆ ก็ไปเขียนว่า ผมมีความไม่พอใจทั้งจุฬาฯ และ ธรมศาสตร์ จึงเสนอให้ปิด ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้มีคนที่ได้รับข้อความเข้าใจตนผิด คนที่เขารับข้อความเห็นว่า ความคิดรุนแรงไปและไม่ชอบ
ฝากเตือนไปถึงคนทำข่าวเท็จว่า ตนมาแจ้งความ ปอท. ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน หาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และหากผู้ใดได้รับข้อความดังกล่าว อย่าไปแชร์หรือส่งต่อ เพราะไม่เป็นความจริงและจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ไปด้วย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้เสียหาย รวมรวมพยานหลักฐานที่นำมามอบให้ เพื่อส่งให้ฝ่ายสืบสวน ตรวจสอบหาต้นตอที่มา ของข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป