ภายหลังเหตุนายชาญวิทย์ หรือดอน วงศ์สหาก อายุ 35 ปี ใช้มีด ขวาน และเลื่อย ก่อเหตุฆ่าชำแหละศพ น.ส.อรนันท์ หรือพิณ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี แยกเป็น 7 ชิ้นส่วน ภายในห้องเช่ารายวันแห่งหนึ่ง จ.สมุทรปราการ แล้วนำไปฝังดินไว้บริเวณใต้ทางด่วนฉลองรัช ริมถนนประเสริฐมนูกิจ ย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ จากนั้นนำอาวุธที่ใช้ลงมือชำแหละศพและของใช้ผู้ตายไปโยนทิ้งคลองบางขวด ย่านนวลจันทร์(อ่านเพิ่มเติม)
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ครอบครัว และเพื่อนของผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อยื่นเอกสารติดต่อขอรับศพ ก่อนจะนำร่างไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพื่อนของผู้เสียชีวิตได้ร่ำไห้ตลอดเวลา และยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องกะทันหัน และยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ได้ให้ข้อมูลว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเองได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้างานของผู้เสียชีวิตว่า พิณหายตัวไป ไม่มาทำงาน และติดต่อไม่ได้ ได้ขอให้ตนเองนั้นช่วยติดต่อพิณอีกทาง
โดยหัวหน้าของพิณ เล่าว่า ลูกค้าคนหนึ่งโทรไปถามเรื่องงานกับพิณ แล้วจู่ๆ ได้ยินเสียงพิณตะโกน “เฮ้ย อะไร” ก่อนจะมีเสียงวิ่ง และโทรศัพท์ถูกตัดสายไป ลูกค้าเห็นท่าไม่ดี จึงติดต่อมาที่หัวหน้าของพิณ ตนเองพยายามติดต่อหาคนใกล้ตัวพิณ แต่ก็ไม่มีใครรู้
วันถัดมา(วันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ย.) เพื่อนสนิทของพิณอีกคน ซึ่งอยู่ที่จ.นครราชสีมา ได้ติดต่อไปหานายดอน ผู้ต้องหา เพื่อสอบถามว่า ได้อยู่กับพิณหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาบอกว่า “ไม่ได้ติดต่อกับพิณนานแล้ว ถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกนะ”
ทั้งนี้ เพื่อนสนิทของพิณ เปิดเผยต่อว่า ที่ไม่ติดต่อนายดอนตั้งแต่วันแรก เพราะเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2564 พิณเคยบอกว่า จะตีตัวออกห่างจากผู้ชายคนนี้แล้ว และเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ตนเองได้พบกับพิณ ซึ่งพิณก็ไม่ได้พูดถึงนายดอน เพื่อนในกลุ่มจึงเข้าใจว่า พิณเลิกติดต่อกับนายดอนแล้ว
แต่ภายหลังจากได้รับฟังคำสารภาพของนายดอน เพื่อนๆ ติดใจที่บอกว่า แทงที่คอแล้วเสียชีวิตเลย แต่สายสุดท้าย ยืนยันว่าได้ยินเสียงวิ่ง จึงเชื่อว่าน่าจะเกิดเหตุทะเลาะกัน ประกอบกับเหตุการณ์ที่เพื่อนโทรไปถามหาพิณกับดอน เขายังบอกว่า มีอะไรให้ช่วยก็บอก ด้วยน้ำเสียงปกติ จึงไม่คิดว่าเขาจะทำเพื่อนได้ลงคอ
โดยในวันนี้หลังจากรับศพแล้ว ครอบครัวจะนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนายังภูมิลำเนาที่วัดบูรพาภิราม จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งจะตั้งสวดอภิธรรมเพียงคืนเดียว และจะฌาปนกิจในวันถัดไป เนื่องจากทั้งครอบครัวและเพื่อนอยากให้พิณหมดทุกข์และไปสบายให้เร็วที่สุด