12 สิงหาคม 2565 สืบเนื่องจากได้มีผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านกร่ำ จ.ระยอง ว่า ได้ถูกกลุ่มคนร้ายเป็นชายจำนวน 3 คน มีอาวุธปืนทุกคน บุกเข้ามายังห้องพักแล้วใช้อาวุธปืนข่มขู่ ทำร้าย พร้อมปล้นเอาทรัพย์สินไปเป็นเงินจำนวน 320,000 บาท และกระทำอนาจารแฟนสาวของผู้เสียหาย
โดยกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมชอบสะสมอาวุธปืน และชอบยิงปืนเป็นประจำ ซึ่งมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างมาก โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้สืบสวนจับกุมโดยเร็ว ซึ่งมอบหมายให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 และ ชุดบูรพา 491 กับ กก.1 บก.สส.ภ.2
ทั้งนี้ จึงได้สนธิกำลังร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ นายซัยยิดมุฮ์ซิน สาเอ็ดอามิ หรือ บังซีน อายุ 29 ปี ในบ้านพักแถวสุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ จ.190/2565 ลงวันที่ 2 ส.ค. 2565 พร้อมของกลาง 1.อาวุธปืนยี่ห้อ CZ ขนาด 6.35 มม. 1 กระบอก 2.แม็กกาซีน จำนวน 1 อัน และ 3.ลูกกระสุนปืน ขนาด 6.35 มม. จำนวน 5 นัด
ในข้อหา "ปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธ แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่ ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร เข้าไปกระทำการรบกวน การครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆหรือใช้กำลังประทุษร้าย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น"
โดย พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เป็นคดีอุกฉกรรจ์โดยคนร้ายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ และกระทำอนาจารเหยื่อเป็นผู้หญิง เป็นคดีที่สนใจต่อประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออก เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันหลายฝ่ายได้สืบสวนจากกล้องวงปิดตามโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 (Smart Safety Zone 4.0) ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ จึงสามารถสืบสวนจนทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ก่อนวางแผนจับกุมตัวผู้ต้องหานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหา พบว่ามีพฤติกรรมชอบสะสมอาวุธปืน และชอบยิงปืนเป็นประจำ ซึ่งมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างมาก ต่อมาวันที่ 11 ส.ค. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวน ทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานอยู่ที่ รีสอร์ทแห่งหนึ่งใจกลางเมืองชลบุรี ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดชลบุรี ออกหมายค้น ตามหมายค้นศาลจังหวัดชลบุรีที่ 154/2565 ลงวันที่ 11 ส.ค. 2565
จากนั้นชุดจับกุมนำโดย ชุดปฏิบัติการพิเศษบูรพา 491 พร้อมด้วยชุดสืบสวน บก.สส.ภ. และสืบสวนจังหวัดระยอง จึงได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นรีสอร์ทที่ผู้ต้องหามากบดาน โดยเมื่อเข้าไปยังห้องพักพบ นายซัยยิดมุฮ์ซิน ผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงได้ทำการจับกุมตัวและตรวจค้นห้องพักดังกล่าว และพบของกลางที่กล่าวมาข้างต้น
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2565 ผู้ต้องหาทราบข่าวว่า น.ส.ไอลดา สงวนนามสกุล แฟนของตน ถูกข่มเหง โดยหนึ่งในกลุ่มของผู้เสียหาย ผู้ต้องหาจึงได้เดินทางจากกรุงเทพ มาที่ห้องพักของกลุ่มผู้เสียหาย ที่ จ.ระยอง เพื่อประสงค์จะมาช่วยแก้แค้นให้แฟนของตน
โดยให้แฟนของตนมาชี้ตัวผู้ก่อเหตุข่มขืน ตนจึงได้เดินทางไปพร้อมกับพวกอีก 4-5 คน พร้อมได้พกพาอาวุธปืนไปที่เกิดเหตุด้วย เพื่อป้องกันตัว เนื่องจากกลุ่มผู้เสียหายมีชายฉกรรจ์อยู่จำนวนหลายคน แต่ปรากฏว่า เมื่อไปถึงจึงทราบว่า คนที่ข่มเหงแฟนสาวของตนนั้นได้หลบหนีไปแล้ว ผู้ต้องหากับพวกจึงได้กลับบ้านไป
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัว นายซัยยิดมุฮ์ซิน ผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกร่ำ จ.ระยอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป