svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

สืบภาค 2 รวบคนร้ายปล้นแบงก์ชลบุรีคาของกลางเงินนับแสน

13 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สืบภาค 2 ปิดเกมส์ รวบคนร้ายชิงทรัพย์แบงก์กรุงเทพ สาขาบ้านเก่า จ.ชลบุรี คารถทัวร์หลังเดินทางไปกบดานจ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางเงินสดนับแสนบาท

13 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.27 น. ของวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปีเศษ สูงประมาณ 170 ซม. สวมหมวกแก๊ปสีดำ และสวมแมสปิดบังใบหน้า ได้ทำทีเข้าไปใช้บริการที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาบ้านเก่า ม.3 ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยกดบัตรคิวและเข้ารับบริการตามปกติ

 

ทั้งนี้ เมื่อพบพนักงานธนาคาร คนร้ายได้ยื่นสมุดบัญชีเงินพร้อมแนบจดหมายน้อย เขียนข้อความข่มขู่ว่า "ห้ามคุยกับใคร ในกระเป๋ามีปืนทำตัวปกติ เอาเงินมา 4 ล้าน ถ้าพูดคุยกับใครมีคนตาย ซึ่งคุณเป็นคนแรก เอามาวางบนโต๊ะ" พนักงานธนาคารเกิดความกลัว จึงได้นำเงินในลิ้นชักให้กับคนร้ายไป จำนวน 600,000 บาท และคนร้ายได้นำเงินใส่กระเป๋าสะพายเดินออกจากธนาคาร ขึ้นรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงหลบหนีไป  

 

สืบภาค 2 รวบคนร้ายปล้นแบงก์ชลบุรีคาของกลางเงินนับแสน

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์  กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี และ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี สืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และสะเทือนขวัญของประชาชน 

 

โดยต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2564 เวลาประมาณ 22.00 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้ศึก ผกก.สส.บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.ประจักษ์พงษ์ สุริยา รอง ผกก.สส.บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.สุวัฒน์ บริรักษ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.เอกกร วรรณทอง พ.ต.ต.อสวรรธน์ ศิระเวรินทร์ สว.กก.สส.บก.สส.ภ.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 และพ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงร่วมกันจับกุมตัว

 

สืบภาค 2 รวบคนร้ายปล้นแบงก์ชลบุรีคาของกลางเงินนับแสน

ทราบชื่อภายหลัง คือ นายสุริยา ตะโกนา หรือ ยา อายุ 31 ปี อาศัยอยู่ ม.2 ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี นอกจากนี้ ยังพบของกลาง ประกอบด้วย 1.เงินสดที่ได้มาจากการชิงทรัพย์ จำนวน  595,000 บาท 2.อาวุธปืน (ปลอม) สีดำ จำนวน 1 กระบอก โดยกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดและพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

 

สำหรับการสืบสวนคนร้าย คือ นายสุริยา ทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปที่โรงงานและบ้านพักแต่ไม่พบตัว ตรวจสอบจนทราบว่า นายสุริยา ได้นำเงินสดที่ได้จากการชิงทรัพย์หลบหนี ไปพร้อมอาวุธปืน และจากการไล่กล้องวงจรปิด จนพบว่าผู้ต้องหาขึ้นรถตู้โดยสารไปที่กรุงเทพ  แล้วต่อขึ้นรถยนต์โดยสารจากขนส่งหมอชิต กรุงเทพ มุ่งหน้าไปจ.เชียงใหม่

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามผู้ต้องหาไปอย่างกระชันชิด และเกรงว่าผู้ต้องหาอาจเป็นอันตรายแก่ประชาชน และผู้คนสัญจรรถโดยสารประจำทางทั่วไปเนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายมีอาวุธปืนติดตัว และเพิ่งก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารหลบหนี จึงได้ร่วมกับตำรวจทางหลวง กก.1 บก.ทล.ในเส้นทางที่ผู้ต้องหามุ่งหน้าหลบหนีให้ช่วยกันสกัดจับ จนสามารถติดตามไปพบตัว นายสุริยา ขณะอยู่บนรถยนต์โดยสารประจำทางสายกรุงเทพ - เชียงใหม่ บริเวณหน้าปั้ม ปตท. ถ.สายเอเชีย ต.ท่าโฉนด อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท

 

สืบภาค 2 รวบคนร้ายปล้นแบงก์ชลบุรีคาของกลางเงินนับแสน

 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวขอตรวจค้น พบเงินสดที่ได้มาจากการชิงทรัพย์ติดตัวอยู่ ซึ่งนายสุริยา ให้การยอมรับว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านเก่าจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวดำเนินคดี ในข้อหาชิงทรัพย์ และขยายผลจนนำไปตรวจยึดอาวุธปืน (ปลอม) สีดำ จำนวน 1 กระบอกทิ้งไว้ในถังขยะ ภายในสถานีขนส่งหมอชิต จตุจักร กรุงเทพ

 

ส่วนมูลในการก่อเหตุในครั้งนี้ นายสุริยา ให้การว่าเกิดจากติดหนี้บัตรเครดิต บ้าน รถ จำนองที่นา มีหนี้สินจำนวนกว่า 3 ล้านบาท และวางแผนก่อเหตุมาตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย .64 โดยผู้ต้องหาไปดูลาดราวธนาคารมาก่อนหน้าแล้ว 4 แห่ง ก่อนลงมือกระทำความผิด นายสุริยา ยอมรับว่าเขียนจดหมายน้อย เพราะไม่อยากให้คนมาใช้บริการธนาคารแตกตื่น

 

ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2  กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกอาจ คนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคาร โดยมีอาวุธปืนซึ่งภายในมีประชาชนหลายคนกำลังใช้บริการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนหาตัวคนร้ายได้รวดเร็ว จากกล้องวงจรปิดตามโครงการ สมารท์ เซฟตี้โซน 4.0  (smart safety zone 4.0 ) ซึ่งเป็นนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2  จึงจัดกำลังตำรวจ บก.สส.ภ.2 จำนวนหลายชุดออกติดตามคนร้าย พร้อมบูรณาการตำรวจทางหลวง เนื่องจากคนร้ายมีพฤติกรรมเป็นอันตรายแก่ประชาชน และผู้คนสัญจรรถโดยสารประจำทางทั่วไป เพราะคนร้ายมีอาวุธปืนติดตัว และเพิ่งก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารหลบหนี

logoline