26 ตุลาคม 2565 "นายราเมศ รัตนะเชวง" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
จากการที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ได้มอบอำนาจให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดี "นายชวน หลีกภัย" จากเหตุการณ์ วันที่ 28 ตุลาคม 2555 เมื่อครั้งที่ "นายชวน หลีกภัย" ได้ไปบรรยายในงานโรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้พูดถึงกระบวนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อครั้ง นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เกิดความผิดพลาด
"ทักษิณ ชินวัตร" จึงมอบอำนาจให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องเฉพาะข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ต่อมาพนักงานสอบสวนมีการนัดหมายเวลา แต่เนื่องจากมีเวลาไม่ตรงกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนกระทั่งคดีเงียบหายไป จนทุกฝ่ายคิดว่าคดียุติไปแล้ว แต่ปรากฏว่าคดีดังกล่าวยังไม่ยุติ พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง ก็ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ และพนักงานอัยการก็เห็นควรสั่งฟ้องเช่นกัน
เมื่อตนได้รับการติดต่อจากพนักงานสอบสวนว่า คดีดังกล่าวจะหมดอายุความวันที่ 28 ตุลาคม 2565 และให้ไปพบพนักงานอัยการในวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เพื่อนำตัวส่งพนักงานอัยการเพื่อส่งตัวฟ้องศาล เวลาที่เหลือมีแค่ 3 วัน ก็จะหมดอายุความ (อายุความคดีนี้ 10 ปี) ความหมายคือคดีนี้ จะยุติด้วยเหตุหมดอายุความในวันที่ 28 ตุลาคม 2565 นี้ และจะไม่สามารถดำเนินคดีกับนายชวน หลีกภัย ได้อีกต่อไป
จากนั้นตนก็ได้รับโทรศัพท์จากท่านชวน หลีกภัย ที่สอบถามถึงเรื่องคดีนี้ โดยสาระสำคัญหลักการที่ท่านชวนย้ำอย่างชัดเจน คือ "ราเมศอย่าให้คดีขาดอายุความ องค์กรตำรวจ องค์กรอัยการ จะเสียหาย ได้ จะต้องยึดหลักในการเคารพกฎหมาย ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ผมพร้อมสู้คดี"
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ที่ตนในฐานะทนายความ ดำเนินการประสานทุกฝ่ายเพื่อเข้าพบพนักงานอัยการส่งตัวฟ้องศาล พิมพ์ลายนิ้วมือ เดินทางไปพบพนักงานอัยการ และไปศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อให้พนักงานอัยการได้นำตัวไปฟ้องต่อศาล และทำการประกันตัว
จากการที่เหลือเวลาเพียง 3 วัน ที่จะขาดอายุความ มีคนแนะนำว่าให้ดึงเวลาเพื่อให้ขาดอายุความคดีจะได้จบไป แต่ท่านชวน หลีกภัย ไม่เลือกเส้นทางดังกล่าว แต่ยังคงยึดมั่นในหลักการความถูกต้อง เป็นตัวอย่างในการเคารพกฎหมาย อยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน
ในส่วนของเนื้อหาคดีขออนุญาตไม่กล่าวถึง แต่งานนี้รับประกันว่า น่าติดตามชมไม่น้อยกว่าคดียุบพรรค และคดีทุจริตจำนำข้าว เพราะข้อเท็จจริงทั้งหมดในสมัยรัฐบาลทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่กรือเซะ เหตุการณ์ที่ตากใบ เหตุการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เหตุการณ์จากการปราบปรามยาเสพติด จะถูกยกขึ้นมาชำแหละอีกรอบหนึ่งผ่านคดีนี้ อย่างแน่นอน