กรณี นายอดิเรก หรือ หมี (สงวนนามสกุล) โชเฟอร์แท็กซี่ วัย 39 ปี ซึ่งตำรวจ ประจำศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ตำรวจหัวหมาก จับกุมดำเนินคดี ลวงหญิงสาว ชาวเมียนมา วัย 17 ปี ไปกระทำชำเราที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง พร้อมยังชิงทรัพย์ โทรศัพท์มือถือ และเงินสด 500 บาท เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (6 สิงหาคม 2565 ) ศาลอาญา ได้อ่านคำพิพากษาว่า นายอดิเรกมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยมีอาวุธ ฐานกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ฐานข่มขืนโดยมีอาวุธปืน ฐานครอบครองสื่อลามก อันเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานข่มขืนโดยมีอาวุธปืนเป็นบทหนักที่สุดจำคุก 15 ปี และ ฐานมีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 4,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษรวมจำคุก 12 ปี 21 เดือนปรับ 2,000 บาท ให้คืนโทรศัพท์ให้แก่ผู้เสียหายราคา 3,000 บาทและเงินอีกจำนวน 500 บาท รวมทั้งให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 351,760 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีนับแต่วันที่ 31 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ในฐานะ รอง ผอ.ศพดส.ตร. กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นตัวอย่าง ที่มีการดำเนินงานทางกฎหมายที่รวดเร็ว มีการสืบพยานล่วงหน้า โดยใช้เวลาเพียง 4 เดือนเศษ และอยากขอเตือนไปยังประชาชน เกี่ยวกับการช่วยกันดูแลบุตรหลานของตน มิให้ตกเป็นเหยื่อจากการล่วงละเมิดทางเพศ รวมทั้งการหางานผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการหลอกลวงหลายรูปแบบที่มีตัวอย่างเกิดขึ้นให้เห็นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงแอบอ้างบุคคลอื่นแล้วพาผู้เสียหายไปกระทำอนาจาร หรือการหลอกลวงไปทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ เป็นต้น