โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ระบุในแถลงการณ์ว่า แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไม่คำนึงถึงข้อกังวลและการคัดค้านอย่างหนักแน่นจากจีน โดยยืนยันเยือนไต้หวัน ที่เป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน สิ่งนี้ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างมาก ทำลายอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของจีนอย่างเลวร้าย รวมถึงเหยียบย่ำหลักการจีนเดียวอย่างร้ายแรง ตลอดจนคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวันอย่างรุนแรง
นอกจากนี้แถลงการณ์ระบุว่า เพื่อตอบโต้การยั่วยุของเพโลซี จีนตัดสินใจใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเพโลซีและสมาชิกในครอบครัวของเธอภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องของจีน แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดของมาตรการคว่ำบาตร
เพโลซีเป็นผู้นำหมายเลข 3 ของสหรัฐฯ รองจากประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี และเธอเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯ ที่เยือนไต้หวันในรอบ 25 ปี
การเยือนนาน 19 ชม. ของเธอ ทำให้จีนโกรธเคืองอย่างมาก ถึงขนาดจัดการซ้อมรบเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเธอเดินทางออกจากกรุงไทเป และยังคงจัดการซ้อมรบกระสุนจริงครั้งใหญ่ ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี รวมทั้งออกมาตรการระงับการนำเข้าผลไม้ตระกูลส้ม และปลาแช่แข็ง 2 ชนิดจากไต้หวัน และห้ามส่งออกทรายให้ไต้หวันเป็นการตอบโต้อีกด้วย
ล่าสุดกระทรวงต่างประเทศจีนประกาศระงับความร่วมมือบางอย่างกับสหรัฐฯ ได้แก่ ยกเลิกการโทรศัพท์และการพบปะระหว่างผู้นำด้านกลาโหมระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยกเลิกการพบปะภายใต้กลไกการปรึกษาหารือทางทะเลระหว่างกองทัพจีนและสหรัฐฯ ระงับความร่วมมือเรื่องการส่งกลับผู้อพยพผิดกฎหมาย ความช่วยเหลือทางกฎหมายเกี่ยวกับคดีอาชญากรรม และการต่อสู่กับอาชญากรรมข้ามชาติ จีนยังระงับความร่วมมือต่อต้านยาเสพติดกับสหรัฐฯ และระงับการเจรจาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ