ซาเวียร์ บีเซอร์รา รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับประเทศ และได้เตรียมพร้อมยกระดับการรับมือการระบาดขึ้นอีกขั้น รวมทั้งขอให้ชาวอเมริกันทุกคนระมัดระวังโรคนี้อย่างจริงจัง
การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังจากองค์การอนามัยโลกประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 23 ก.ค. และบางเมืองและบางรัฐในสหรัฐฯ ทยอยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น นครนิวยอร์กและซานฟรานซิสโก รัฐอิลลินอยส์ แคลิฟอร์เนีย และนิวยอร์ก เพื่อให้สามารถจัดสรรงบและทรัพยากรในการควบคุมการระบาด ขณะมีเสียงวิจารณ์ว่า รัฐบาลกลางไม่สามารถรับมือการระบาดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีวัคซีนและยารักษาไม่เพียงพอ และมีกระแสกดดันให้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศโดยเร็ว
สหรัฐฯ รายงานพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายแรกช่วงกลางเดือน พ.ค. และจนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยมากกว่า 6,600 รายแล้ว โดยพบการระบาดเกือบทั่วประเทศแล้ว ยกเว้น รัฐมอนทนา และรัฐไวโอมิง จำนวนผู้ป่วยในสหรัฐฯ มากเป็นอันดับหนึ่งของโลกแล้ว และข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ระบุว่า มีจำนวผู้ป่วยฝีดาษลิงมากกว่า 26,000 คนทั่วโลก
เมื่อวันอังคาร ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่งตั้ง โรเบิร์ต เฟนตัน เป็นผู้ประสานงานรับมือการระบาดของโรคฝีดาษลิงของทำเนียบขาว เขาเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ฟีมา ที่กำกับดูแลรัฐอริโซนา แคลิฟอร์เนีย ฮาวาย และเนวาดา และ นพ. ดิเมนทรี ดาสกาลากิส ผู้อำนวยการฝ่ายป้องกันเอชไอวี/เอดส์ ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้ประสานงานรับมือการระบาด