3 สิงหาคม 2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวปาฐกถาเรื่อง "Thailand's Climate Commitment and Decarbonization Journey" ในงานเสวนา 2022 Shell Forum "Powering Progress : The Decarbonization Journey" ณ โรงแรม Siam Kempinski
โดย นายวราวุธ กล่าวว่า ประเทศไทยติด 1 ใน 10 ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากปรากฏการณ์ Climate Change ดังนั้น จะต้องทยอยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2030 ให้ได้ 40% ซึ่งจะได้รับการซัพพอร์ทจากทุกประเทศ วันนี้ (3ส.ค.) ได้เริ่มเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน และการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
ทั้งนี้ หนึ่งในต้นตอการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คือ การปลูกข้าว เนื่องจากในนามีน้ำหมักหมมอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น จึงต้องเพิ่มพลังงานทดแทน ลดการใช้ก๊าซธรรมชาติ มีการปรับปรุงเทคนิคการทำนาข้าวที่จ.สุพรรณบุรี เป็นการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง ทำให้ลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้ถึง 70%
"การจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเดินหน้าไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้น ต้องสอดคล้องกับนโยบาย BCG Model ที่ทุกภาคส่วนสามารถมีส่วนร่วมได้กับภาครัฐและเอกชน โดยเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ทส.ได้เดินทางไปเซ็นสัญญาคู่แรกของโลกที่สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อซื้อขายคาร์บอนเครดิตร่วมกัน" นายวราวุธ กล่าว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลมีแผนเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ 55% จะเป็นตัวการสำคัญที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ ภาคประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในปี 2565 ประมาณ 6 แสนไร่ โดยแบ่งปันเครดิตให้ผู้พัฒนาโครงการร้อยละ 90 หน่วยงานของรัฐร้อยละ 10
นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า โดยในวันที่ 5-6 ส.ค.นี้ จะมีการจัดงานประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฎิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย TCAC ซึ่งงานนี้จะได้รับเกียรติจากนายกฯ เป็นประธานเปิดการประชุม และปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "เป้าหมาย Net zero 2065"