svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ระทึก!!หนุ่มวัย39คลั่งถือมีดพร้าฟันหัวย่าดับ1เจ็บ5โรคประสาทกำเริบ

30 กรกฎาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ระทึก!!หนุ่มวัย39คลั่งถือมีดพร้าฟันหัวย่าดับ1บาดเจ็บอีก 5โรคประสาทกำเริบ ตำรวจต้องเข้าไประงับเหตุชุลมุน ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 ร.ต.ท.อรรฆฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุชายอาการโรคประสาทกำเริบคลุ้มคลั่งอาละวาดบ้านเลขที่ 328 ม.2 บ.โนนสูง ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ได้ใช้อาวุธมีดพร้าฟันย่าเสียชีวิต และไล่ฟันชาวบ้านบาดเจ็บสาหัส 1 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สุรชิต ฤทธิลี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.วีระพล มูลบัวภา สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมกำลังตำรวจกว่า 20 นาย พร้อมกับประสานแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รุดไปตรวจสอบ

ระทึก!!หนุ่มวัย39คลั่งถือมีดพร้าฟันหัวย่าดับ1เจ็บ5โรคประสาทกำเริบ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมาก โดยมีตำรวจชุดเผชิญเหตุพร้อมไม้ง่าม ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นาย กำลังเจรจาเกลี้ยกล่อมให้นายกัสกร หรือโอ๋ วงษ์ชาลี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 463 ม.2 ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี หลานชายเจ้าของบ้านที่เสียชีวิตให้ออกมามอบตัว แต่นายโอ๋ฯ ยังอยู่ในอาการหวาดระแวง เดินถือมีดเข้าออกประตูบ้าน ส่วนนางมะลิ วงษ์ชาลี อายุ77 ปี ย่าแท้ๆของนายโอ๋ และเป็นน้องสาวของผู้ตาย พาหลานชายวัย 3 ขวบ วิ่งเข้าไปหลบในห้องนอนทำการปิดล็อกประตูไว้ ทำให้นายโอ๋ เข้าไปทำร้ายไม่ได้ โดยหน่วยกู้ชีพเทศบาลโนนสูงน้ำคำได้นำผู้บาดเจ็บออมาจากที่เกิดเหตุทั้งหมด 5 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 3 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสคือ นางประภาส นาสินสร้อย อายุ 70 ปี ที่ขี่จักรยานผ่านมาหน้าบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อจะไปเลี้ยงวัวที่ทุ่งนา ถูกฟันนิ้วมือขวาหวิดขาด จำนวน 3 นิ้ว และถูกฟันที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ 1 แผล ถูกนำตัวส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี

ระทึก!!หนุ่มวัย39คลั่งถือมีดพร้าฟันหัวย่าดับ1เจ็บ5โรคประสาทกำเริบ

หลังจากนั้นผ่านไป 30 นาที นายโอ๋ใช้มีดพร้าทุบกระจกประตูบ้านแตก และทำลายข้าวของก่อนที่จะกระโดดข้ามกำแพงรั้วหน้าบ้านออกมาหวังหลบหนี แต่ถูกตำรวจชุดเผชิญเหตุใช้ไม้ง่ามเข้าชาร์ตควบคุมตัวพร้อมของกลางมีพร้ายาว 40 ซม. จำนวน 1 เล่ม และได้ควบคุมตัวไปรักษาอาการเบื้องต้นที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ซึ่งนายกัสกรฯ ยังให้การวกวน โดยไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นจำอะไรไม่ได้ ทำไมมีคนมามาก แม้แต่ชื่อตัวเองก็ยังบอกผิด ตรวจสอบในห้องนอนผู้ก่อเหตุพบยารักษาอาการทางประสาท และใบรับรองการรักษาอาการไม่พบยาเสพติดและอุปกรณ์การเสพ และได้ตรวจสอบประวัติไม่พบเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและติดเสพยาบ้าแต่อย่างใด ซึ่งตรวจสอบสภาพศพผู้ตายพบบาดแผลถูกมีดฟันที่ศีรษะ 2 จุดเป็นแผลฉกรรจ์ยาว 10 ซม. กว้าง 4 ซม.

 

จากการสอบสวน นางสาวอรปรียา ชารีงาม อายุ 45 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ ให้การว่า สามีเป็นคนไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่มีโรคประจำตัวคือโรคลมชัก และมีอาการทางประสาท ก่อนเกิดเหตุสามีมีอาการหลอนเห็นปลิงและแมงมุงในห้องน้ำ และถือเสียมจะไปขุดหาเขียดรอบบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะมีอาการคลั่งคุมตัวเองไม่ได้ ถือมีดกระโดดข้ามกำแพงรั้วหน้าบ้าน วิ่งถือมีดพร้าออกไปทำร้ายชาวบ้านที่ร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ห่างไปราว 200 เมตร ก่อนวิ่งกลับมาบ้านใช้ด้ามเสียมตีที่แขนขวาและท้ายทอยย่าแท้ๆคือ นางมะลิ วงษ์ชาลี อุ้มหลายชายวัย 3 ขวบ เข้าไปหลบซ่อนตัวในห้องนอน

 

“ส่วนตนเข้าไปห้าม เพราะสามีจะพังประตูห้องนอนเข้าไปทำร้ายย่ากับหลานชาย ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บถูกศอกที่ดั้งจมูกหัก ตนกลัวจึงรีบวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ ก่อนที่สามีจะใช้มีดพร้าฟันศีรษะย่าทองสุข ที่ยืนอยู่หน้าโรงเรือนใช้สำหรับเก็บของจนเสียชีวิตคาที่ โดยได้ยินแต่เสียงย่าทองสุขร้องด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นสามีได้เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน ก่อนมีตำรวจและผู้นำชุมชนเข้ามาระงับเหตุ โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา สามีโรคลมชักกำเริบหลายครั้ง และไม่ยอมหลบยอมนอนมา 2 คืน เนื่องจากไม่ยอมกินยารักษาอาการต่อเนื่อง เมื่อวานจึงพาไปหาหมอที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ก่อนมาเกิดเหตุสลดขึ้น”

 

นายสุริยา แก้วไตรรัตน์ อายุ 61 ปี สท.โนนสูง-น้ำคำ เปิดเผยว่า ผู้นำชุมชนและชาวบ้านแจ้งไปว่า นายโอ๋ มีอาการคลุ้มคลั่งอาระวาดไล่ทำร้ายชาวบ้าน และญาติพี่น้อง จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงออกมาตรวจสอบ พบนายโอ๋ มีอาการคลุ้มคลั่งทุบทำลายข้าวของภายในบ้านตนจึงร้องบอกนายโอ๋ ให้ตั้งสติและใจเย็นๆ นายโอ๋ได้วิ่งถือมีดออกมาหยุดที่ประตูรั้วหน้าบ้าน ด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร จึงถอยออกมาห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ และประสานจนท.ส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยกันระงับเหตุ นำผู้บาดเจ็บส่งรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาเจรจาเกลี่ยกล่อม จู่ๆนายโอ๋ ก็วิ่งถือมีดพร้ากระโดดข้ามกำแพงออกมาเพื่อหลบหนี แต่ถูกตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ได้โดยละม่อม ส่วนเรื่องที่นายโอ๋ เสพยาบ้าหรือไม่นั้นตนไม่รู้

 

นางสาวณิชากร แก้วอาจ อายุ 19 ปี หลานสาวผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนและภรรยาผู้ก่อเหตุที่มีศักดิ์เป็นน้า ได้พากันนำยารักษาอาการมาให้ผู้ก่อเหตุกิน เนื่องจากย่ามะลิฯ โทรศัพท์บอกพวกตนว่า น้าโอ๋มีอาการคลุ้มคลั่ง พอมาถึงบ้านที่เกิดเหตุ ก็พบน้าโอ๋ ถือมีดถือไม้ไล่ทำร้ายชาวบ้าน ตนตกใจกลัวไม่กล้าเข้าไป แต่ภรรยาของน้าโอ๋ ได้เข้าไปห้ามจนถูกทำร้าย จึงพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่ตนก็เป็นห่วงลูกชายวัย 3 ขวบ ที่อยู่ในห้องกับย่ามะลิฯ ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจและผู้นำชุมชนเข้ามาระงับเหตุ

ระทึก!!หนุ่มวัย39คลั่งถือมีดพร้าฟันหัวย่าดับ1เจ็บ5โรคประสาทกำเริบ

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งเหตุ ตำรวจได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ และเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธมีดพร้าเข้ามอบตัว แต่ด้วยผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่งหวาดระแวงได้ถือมีดกระโดดข้ามกำแพงออกมาจากบ้าน ตำรวจจึงใช้ยุทธวิธีควบคุมตัวเอาไว้ได้ ในเบื้องต้นตำรวจได้ควบคุมตัวไปทำการรักษาอาการที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี และตรวจร่างกายอย่างละเอียด และได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว:   เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์  สำนักข่าวเนชั่น จ.อุดรธานี

logoline