ตำรวจมือยิงหนุ่มคลั่งได้ประกันตัวชั่วคราว ส่วนญาติรับร่างกลับบ้านแล้ว

จากกรณีที่ จ.ส.ต.พชรพรรณ  บุญนาม  อายุ  36 ปี  ผบ.หมู่งานจราจร สภ.ท่าพระ จ.ขอนแก่น  ยิงคนร้ายเสียชีวิตภายในหอพักแม่สำลี เลขที่ 213 บ้านหนองนิยม  หมู่ที่ 14 ต.ท่าพระ  อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ทราบชื่อผู้เสียชีวิตนายวีรชน บุตุธรรม อายุ 40 ปี  เป็นชาว ต.บ้านเพชร อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ โดยกล้องวงจรปิดภายในหอพักสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด โดยเหตุการณ์พบว่ามีชายคนหนึ่งกำลังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ถือท่อนเหล็กยาวกว่า 1 เมตร โวยวายเรียกชื่อหญิงคนหนึ่ง พร้อมทั้งทุบทำลายประตูห้องพักในหอพักแห่งนี้ ก่อนจะเดินมาทางห้องของเจ้าของหอพักซึ่งเป็นตำรวจ สภ.ท่าพระ ต่อมามีเสียงปืนลั่นขึ้น 1 นัด ก่อนที่เจ้าของหอพักจะลากชายคลุ้มคลั่งออกมาจากในห้อง 
  
 

27 กรกฎาคม 2565 นายสมคิด อ่อนโพธา  อายุ 65 ปี  ชาวบ้านหนองนิยม  ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น  เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย  รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น  กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ  ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน วันที่ 24 ก.ค. 65 นายวีรชน  ได้เดินมาตามถนน ในมือถือท่อนเหล็กและมีดพร้า พร้อมส่งเสียงตะโกนโวยวาย  ผ่านมาหน้ารีสอร์ต  แล้วตรงเข้ามาหาแล้วบอกให้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ จับใจความได้ว่าให้มาจับหนุ่มผมยาว ขณะนั้นไม่มีเงินในโทรศัพท์  จะไม่สามารถโทรได้  ทำให้นายวีรชน ไม่พอใจวิ่งไล่ฟัน จึงได้วิ่งหนี จนได้โอกาสวิ่งไปขอความช่วยเหลือกับชาวบ้าน  จากนั้นนายวีรชน ผู้ตาย ได้เดินเข้าไปในรีสอร์ท พร้อมตะโกนเสียงดัง แล้วจากนั้นได้ยินเสียงกระจกแตกหลายครั้ง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะเดินออกมาแล้วใช้มีดฟันตามกำแพง  แล้วส่งเสียงร้องดังไปตามถนน  ขณะที่ตนก็แอบซ่อนตัวอยู่ในบ้านของชาวบ้าน  และพยายามโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นชายคุ้มคลั่งก็เดินมุ่งหน้าไปที่  หอพักแม่สำลีสถานที่เกิดเหตุ  ต่อมาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ขณะนั้นตนแล้วชาวบ้านก็นึกว่ามีการยิงขู่เฉยๆ  ไม่คิดว่าจะมีเหตุผลยิงกันตายเกิดขึ้น  เมื่อทุกอย่างสงบลง  ตนก็ได้เดินมาสำรวจข้าวของ เสียหาย เป็นกระจกตู้ยาม และตรงเคาเตอร์รับแขกใหล้กับกล้องวงจรปิด ได้รับความเสียหาย  ซึ่งขณะที่เกิดเหตุ  โชคดีที่มีแขกเข้ามาใช้บริการเพียงแค่รายเดียวเท่านั้น  และพักอยู่หลังสุดท้ายด้วย  จึงไม่มีใครได้ยินเสียง และได้รับบาดเจ็บกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้  และยอมรับว่า  ไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน  

ด้านพ.ต.อ.ธนารัตน์  มีทองหลาง ผกก.สภ.ท่าพระ กล่าวว่า เบื้องต้น  พ่อนายวีรชน ผู้เสียชีวิตเดินทางเข้าพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อติดต่อขอรับศพและให้ปากคำ  จากการสอบสวนทราบว่า พ่อของผู้ตายไม่ทราบว่าผู้ตายเดินทางมาที่จังหวัดขอนแก่น และไม่รู้ว่ามาทำอะไรหรือมาหาใคร โดยรายละเอียดอื่นๆอยู่ในสำนวนการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง   ส่วนเรื่องการร้องเรียนจากญาติผู้ตายนั้น ยังไม่ได้รับการร้องเรียนว่าญาติผู้ตายติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่หากมีข้อร้องเรียนหรือต้องการขอความเป็นธรรมก็สามารถแจ้งความกับทางตำรวจขอความเป็นธรรมได้ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ปรากฏ ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้ได้สอบปากคำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ รวมทั้ง รปภ. รีสอร์ท แห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อเป็นหลักฐานประกอบคดี    ส่วนผลกการชันสูตรหาสารเสพติดร่างกาย ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างกากรรอผลชันสูตรจากแพทย์ รพ.ศรีนครินทร์ตามขั้นตอน  โดยหลังจากเกิดเหตุผู้ต้องหาซึ่งเป็นตำรวจจราจรของ สภ.ท่าพระก็ได้แจ้งเหตุ 191 รอมอบตัว ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และได้ปล่อยตัวชั่วคราว ภายหลังจากได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งวางหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 500,000 บาท ในการประกันตัว เพราะเนื่องจากพิจารณาแล้วว่า จ.ส.ต.พชรพรรณ ไม่มีพฤติกรรมที่จะหลบหนี อีกทั้งยังเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ท่าพระ จ.ขอนแก่น เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา โดยพิจารณาแล้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการป้องกันตัว เพราะขณะนั้นในห้องพักนอกจากจะมี จ.ส.ต.พชรพรรณ แล้ว ยังมีภรรยาที่อยู่ภายในห้อง
ข่าว/ภาพกวินทรา  ใจซื่อ  ศูนย์ข่าวเนชั่นภาคอีสาน  สำนักข่าวเนชั่น