จังหวัดอับราทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ประกาศให้ทั้งจังหวัดเป็นเขตภัยพิบัติแล้วหลังจากแผ่นดินไหวที่วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.0 แมกนิจูด ส่งผลกระทบต่อประชาชนเกือบ 80% ของทั้งจังหวัดและโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ในจังหวัด เพื่อให้สามารถจัดสรรงบฟื้นฟู และควบคุมราคาสินค้าจำเป็นในพื้นที่ประสบภัย พร้อมกับขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจากรัฐบาลกลางทั้งในด้านภารกิจการกู้ภัย การบรรเทาทุกข์ และการซ่อมสร้างต่าง ๆ
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ไปเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยในเมืองบังเก็ด จังหวัดอับรา และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความสำคัญกับการซ่อมแซมระบบไฟฟ้าและสายสื่อสารให้ใช้งานได้ตามปกติเป็นอันดับแรก รวมถึงช่วยเหลือให้ระบบประปากลับมาใช้การได้โดยเร็ว
ขณะที่ชาวบ้านในอับรายังคงหวาดกลัวกับแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหวหรืออาฟเตอร์ช็อค ทำให้ยอมนอนนอกบ้านตามริมทางเท้า และในสวนสาธารณะเพื่อความปลอดภัย ชาวบ้านคนหนึ่ง บอกว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อคแทบทุก 15 หรือ 20 นาที
สำนักงานภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาของฟิลิปปินส์ รายงานว่า มีอาฟเตอร์ช็อคตามมากว่า 800 ครั้ง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ระหว่าง 1.5- 5.0 แมกนิจูด ซึ่งมีเพียง 24 ครั้งที่รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน และจะยังเกิดต่อเนื่องอีก 2-3 วัน
แผ่นดินไหวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายและผู้บาดเจ็บกว่า 150 คน อาคารบ้านเรือนหลายร้อยหลังพังราบหรือได้รับความเสียหาย ถนนถูกตัดขาดจากดินถล่ม และไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ และในเมืองวีกัน ที่เป็นแหล่งมรดกโลกและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดอิโลคอสซูร์ สิ่งปลูกสร้างอายุหลายร้อยปีที่สร้างขึ้นในสมัยเป็นอาณานิคมของสเปนได้รับความเสียหาย รวมถึง หอระฆังบันไต