วันนี้ (27 ก.ค.) ที่บริเวณด้านหน้า สำนักงานประธานศาลฎีกา ภาคีนักกฎหมาย คณาจารย์นิติศาสตร์ นักวิชาการ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึง ทนายความ และนักสิทธิมนุษยชน กว่า 16 คน ร่วมยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นางปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานศาลฎีกา เพื่อเรียกร้องให้ศาลต้องยึดมั่นในหลักสันนิษฐานว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์
นายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวชี้แจงว่า ที่มาในวันนี้คือตัวแทนนักกฎหมาย ซึ่งพวกเรามีความกังวลต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายตุลาการในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะเรื่องของสิทธิในการประกันตัว โดยศาลต้องยึดหลักที่ว่า ผู้ถูกกล่าวหานั้นสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ (Presumption of innocence) เพราะในห้วงเวลาที่ผ่านมา มีหลายกรณีที่คำวินิจฉัยเป็นปัญหาขัดต่อหลักการ โดยหวังให้ศาลทำหน้าที่เป็นกลาง และอิสระ เพื่อให้สิทธิเสรีภาพของประชาชนได้รับความคุ้มครอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อความเห็นของนักวิชาการ และตุลาการไม่ตรงกัน จะมีข้อยุติอย่างไร ด้าน นัทมน คงเจริญ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนนักวิชาการเห็นว่า การใช้กฎหมายต้องยึดหลักสากล และมีมาตรฐานในความยุติธรรม และฝ่ายสถาบันตุลาการในประเทศไทยก็ต้องยึดมั่นในมาตรฐานสังคมตรงส่วนนี้ด้วย
นัทมน กล่าวอีกว่า การใช้กฎหมายต้องมีเหตุผลกับสังคมมากกว่านี้ แต่คำตอบที่ผ่านมาของศาล สาธารชนก็ฟังแล้ว และสังคมสามารถตัดสินใจบนพื้นฐานที่ตระหนักได้ว่าถูกต้องหรือไม่ แต่ตนก็คิดว่า ที่มายื่นในวันนี้เนื่องจากกังวลว่าจะติดวันหยุด และยังมีคนที่ไม่ได้รับการประกันตัว ตนไม่คาดหวังเห็นปาฏิหาริย์ในวันนี้ แต่ก็คงจับตามอง เพราะมันเรื่องของสุขภาพที่ยังคงถูกเลือกปฏิบัติต่อผู้ชุมนุม
"ตรงนี้คิดว่า เราคงพูดชัดเจนที่สุดแล้ว ในส่วนของนักวิชาการที่มาจากหลากหลายภูมิภาค ในส่วนของความเห็น สมอง และกำลังกาย เราทำเต็มที่แล้ว แต่ที่เหลือต่อจากนี้ ฝั่งตุลาการต้องฟังเราบ้าง"
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่มีการยื่นหนังสืออยู่นั้น ได้มีกลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่งมาร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการแขวนป้ายที่ระบุภาพของ เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง และณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือ ใบปอ สองนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็นผู้ต้องหาคดี ม.112 ซึ่งตอนนี้ยังคงไม่ได้รับการประกันตัว หลังสุขภาพทรุด เพราะอดอาหารมาแล้ว 55 วัน