จากกรณีที่นักเรียนหญิง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ส่งข้อความผ่านทางไลน์พูดคุยระบายความในใจกับแม่ ตามข้อความระบุว่า ครูบอกว่า “คนอย่างหนูจะเรียนไม่จบหรอก” จนทำให้นักเรียนหญิงคนดังกล่าวคิดสั้นผูกคอเสียชีวิต
21 กรกฎาคม 2565 นางสาวกรรณิการ์ ทูลเกียรติวัฒนา แม่ของนักเรียนชั้น ม. 2 อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 95/1-3 ม.2 ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังมีการนำเสนอข่าว ทั้งครูประจำชั้นและผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสองชั้น ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาส ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ ด.ญ.ธัญชนก หรือบิ๋ม ตรวจมรรคา อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ลูกสาว ผูกคอเสียชีวิตในห้องพักพร้อมจดหมายลาตาย
นางสาวกรรณิการ์ กล่าวว่า คำพูดของผู้อำนวยการโรงเรียนไม่สอดคล้องกับข้อความไลน์ของลูกที่แชทมาคุยกับแม่ โดยเฉพาะข้อความระบุว่า “แม่รู้ไหมมันโคตรกดดันเลย รู้ไหมวันนี้ครูเขาพูดว่ายังไงกับหนู เขาบอกว่าคนอย่างหนูจะเรียนไม่จบหรอกเขามั่นใจ” ต่อมาลูกสาวไลน์มาบอกว่า “ถ้าจบเทอมนี้หนูจะหาเงินด้วยตัวเอง จะขอย้ายโรงเรียน เพราะรู้สึกโดดเดี่ยวมาก ครูก็ชอบกดดัน เพื่อนก็ชอบเมินไม่มีเงินไม่มีรถเพื่อนไม่คบ เพื่อนไม่นับ”สุดท้ายลูกสาวผูกคอตัวเองเสียชีวิตในวันถัดมา
“เป็นเรื่องระหว่างครูกับลูกสาว ส่วนตัวเชื่อว่าลูกสาวคิดเอง น้อยใจเอง ส่วนครูคิดว่าคงจะหวังดีต่อลูกศิษย์เพียงแต่ใช้น้ำหนักเสียงในการพูดไม่ตรงกับสภาพความรู้สึก คิดว่านักเรียนรับได้ ที่ผ่านมาเคยปลอบใจลูกว่าที่ครูพูดคือเป็นห่วงนักเรียน แต่ครูอาจจะลืมไปว่าเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ครูต้องใช้จิตวิทยาจำแนกสภาพความรู้สึกของเด็กแต่ละคน แต่ละกลุ่ม เพราะความรู้สึกแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถึงแม้ลูกสาวจะเป็นคนขี้เล่น ชอบสนุก แต่เวลาแม่ดุ มักจะเงียบและน้อยใจ ดังนั้นครูผู้สอนควรจะศึกษาและแยกกลุ่มเด็ก ว่ากลุ่มไหนจะรับแบบไหนได้ ไม่ควรจะสอนเด็กแบบเหมารวมกัน” นางสาวกรรณิการ์ กล่าว
ขณะที่นางเตียว ทูลเกียรติวัฒนา อายุ 77 ปี ยายน้องบิ๋ม กล่าวว่า ยังทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะคิดถึงหลานที่จากไปก่อนวัยอันควร ส่วนกรณีที่ครูปฏิเสธว่าไม่ได้ด่าหลาน ตนไม่เชื่อเนื่องจากหลานมาเล่าให้ฟังทุกครั้งที่ยายถามว่า”ทำไมไม่ไปโรงเรียน”หลานจะบอกว่าครูด่า
ข่าว/ภาพ เรืองรุจ วังแจ่ม สำนักข่าวเนชั่น จ.บุรีรัมย์