svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

คลังเล็งลดต้นทุนผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ-การแพทย์

11 กรกฎาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กระทรวงการคลังพร้อมที่จะหาแนวทางการลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศที่ผลิตอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังพร้อมที่จะหาแนวทางการลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศที่ผลิตอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ

“การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยลงทุนผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุภายในประเทศ เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจาก สังคมไทยได้ก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุแล้ว”

ดังนั้น การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยผลิตอุปกรณ์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Wheel Chair หรืออุปกรณ์ที่ติดในรถยนต์ที่เป็นระบบอัตโนมัติในการนำ Wheel Chair เข้าไปในรถได้สะดวกขึ้น เพื่อให้อุปกรณ์เหล่านี้มีราคาไม่แพงในประเทศ เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลัง พร้อมสนับสนุน ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมานี้ กระทรวงการคลัง ก็ได้นำเสนอครม.อนุมัติ การลดภาษีนำเข้าเป็น 0% สำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก(Car Seat)

คลังเล็งลดต้นทุนผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ-การแพทย์

ทั้งนี้ เหตุผลของการเสนอลดภาษีนำเข้า Car Seat ดังกล่าวเพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และเป็นการส่งเสริมความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชน เพื่อสนับสนุนมาตรการของรัฐบาลในการกำหนดว่า ในขณะขับรถยนต์ คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับไม่เกิน 2 พันบาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 ก.ย.2565

คลังเล็งลดต้นทุนผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ-การแพทย์

ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้มอบหมายให้กรมศุลกากรพิจารณามาตรการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับสินค้าประเภทที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในระยะสั้น เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและสนับสนุนความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชน

ทั้งนี้ กรมศุลกากร ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ปัจจุบันตลาดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ และมีผู้ประกอบการไทยที่ผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กจำนวนน้อยราย จึงประสานกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พบว่า ประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอในการเป็นผู้ผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาปริมาณความต้องการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในประเทศมีจำนวนไม่มากพอที่จะทำให้เกิดลงทุนในการผลิตสินค้า แต่หลังจากมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) ปี 2022 แล้ว คาดว่าจะมีปริมาณความต้องการใช้ในประเทศสูงขึ้น และมีผู้ประกอบการหลายรายให้ความสนใจในการลงทุนเพื่อผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จึงเห็นควรลดอัตราอากรขาเข้า สำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car Seat) เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อสนับสนุนการลดราคาให้กับผู้บริโภค และให้ผู้ประกอบการภายในประเทศสามารถประเมินศักยภาพในการผลิตและความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจ นี้

logoline