svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

รัฐฯทุ่มกรมการข้าว 1.5 หมื่นล้าน เสริมศักยภาพชาวนา

26 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมการข้าว แจงรัฐบาล เพิ่มงบอีก 15,000 ล้าน ปรับเป้าจากครัวเรือน สู่การยกระดับศูนย์ข้าวชุมชน เสริมศักยภาพ ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มรายได้ ชาวนามั่นคง นำไปสู่การลดงบประมาณช่วยหลือชาวนาในอนาคต

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า จากเดิม รัฐบาล ออกนโยบายต่างๆ เพื่อมาช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าว ผ่านการจัดสรรค์งบประมาณไปยังกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำไปพัฒนา สนับสนุน และยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนาไทย โดยใน ปีงบประมาณ พ.ศ.2566  กรมการข้าวได้รับงบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาล ผ่าน โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เป็นจำนวนเงิน 15,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นกว่าทุกครั้ง 

 

สำหรับสาเหตุที่กรมการข้าวได้รับการจัดสรรค์งบประมาณที่เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รัฐบาลได้ปรับนโยบายการช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าว คือ นโยบายสร้างความยั่งยืนของการพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนค่าต้นทุนการผลิตข้าวและค่าเก็บเกี่ยวข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวประมาณ 4.6 ล้านครัวเรือน พื้นที่ประมาณ 62 ล้านไร่  ใช้งบประมาณปีละประมาณ  54,000  ล้านบาท (โดยไม่รวมงบประมาณโครงการหรือนโยบายการช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวหลักของรัฐ เช่น ประกันรายได้เกษตรกร และมาตรการคู่ขนานอื่นๆ) ซึ่งค่าลดต้นทุนและค่าเก็บเกี่ยวข้าว รัฐจะจ่ายเงินสนับสนุนให้กับเกษตรกรโดยตรง ผ่าน  ธ.ก.ส. โดยไม่ต้องมีการติดตามว่าเกษตรกรจะนำไปใช้จ่ายที่ตรงเป้าหมายที่รัฐกำหนดหรือไม่ จึงทำให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของนโยบายวินัยการเงินและการคลังของประเทศไทย ที่จะต้องเพิ่มงบประมาณในการลงทุน (งบครุภัณฑ์) ของประเทศไทย

รัฐฯทุ่มกรมการข้าว 1.5 หมื่นล้าน เสริมศักยภาพชาวนา

เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีการจัดตั้งงบลงทุนต่ำ แต่เมื่อรัฐบาลต้องการสร้างความยั่งยืนและให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีความเข้มแข็งในอนาคต  รัฐบาลจึงปรับเปลี่ยนการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโดยเป็นการสนับสนุนค่าต้นทุนการผลิตข้าวและค่าเก็บเกี่ยวข้าว 

 

อธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อไปว่า โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว มีเป้าหมายในการสนับสนุนงบประมาณไปยังศูนย์ข้าวชุมชนจำนวน 5,000 ศูนย์ ทั่วประเทศ โดยโครงการฯจะสนับสนุนตามศักยภาพของกลุ่มเกษตรกรเป็นหลัก (ตามแผนการปฏิบัติงานที่จะดำเนินการบริหารจัดการเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิตข้าว) และพิจารณาตามพื้นที่ทำนาปลูกข้าวในเขตการให้บริการของศูนย์ข้าวชุมชน ดังนี้ พื้นที่ให้บริการต่ำกว่า 2,000 ไร่ จะสนับสนุน 1 ล้านบาท พื้นที่ให้บริการมากกว่า 2,000 ไร่ จะสนับสนุน 2 ล้านบาท พื้นที่ให้บริการมากกว่า 4,000 ไร่ จะสนับสนุน 3 ล้านบาท และพื้นที่ให้บริการมากกว่า 6,000 ไร่ จะสนับสนุน 4 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร และค่าซ่อมแซมเครื่องจักรกลการเกษตร 

รัฐฯทุ่มกรมการข้าว 1.5 หมื่นล้าน เสริมศักยภาพชาวนา

โดยจะกำหนดกรอบกว้างๆให้เกษตรกรทราบเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการเกษตรกรอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีคณะกรรมการระดับต่างๆ ไปพิจารณาให้ตรงกับศักยภาพของกลุ่มเกษตรกรจริง

 

อธิบดีกรมการข้าว กล่าวเพิ่มเติมถึงประโยชน์ที่พี่น้องชาวนาจะได้รับจากโครงการดังกล่าวว่า โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จะทำให้กลุ่มเกษตรกร และศูนย์ข้าวชุมชนมีความเข้มแข็ง เพื่อเป็นกลไกในการพัฒนาการผลิตข้าวของประเทศ และจะเกิดผลประโยชน์ทางตรง ซึ่งจะส่งผลให้ ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อปี ต้นทุนการผลิตต่อไร่ลดลงร้อยละ 5 ต่อปี เกษตรกรรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 (รายได้สุทธิเพิ่มขึ้นบาท/ไร่ หรือ บาท/กิโลกรัม)  ต่อปี อีกทั้งเกษตรกร 4.60 ล้านครัวเรือน จะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว ที่สำคัญผลประโยชน์สุทธิที่ได้รับจากโครงการ 30,318 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงบลงทุนภาครัฐ 15,260 ล้านบาท ได้ผลประโยชน์สูงถึง 15,058 ล้านบาท นอกจากนั้นประเทศไทยจะสามาถใช้จ่ายงบประมาณด้านงบลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจของประเทศ ลดภาระ ตลอดจนประเทศสามารถลดงบประมาณในการช่วยหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวในอนาคตได้มาก

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว

logoline