"กัญจนา"รับสูตรคิดปาร์ตี้ลิสต์แบบไหนก็ไม่ง่ายสำหรับชาติไทยพัฒนา

11 กรกฎาคม 2565 น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงสูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ หารด้วย 500 ว่า เรื่องนี้ผ่านวาระ 2 ไปแล้ว ต้องรอการพิจารณาวาระ 3 แล้วส่งกลับไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของสภาอีกครั้ง ซึ่งในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ผ่านมามีการโหวตที่หลากหลาย แต่ไม่ว่าจะสูตรไหนก็ไม่ง่ายสำหรับพรรค ซึ่งทุกกติกาสู้เต็มที่

ทั้งนี้ ยืนยันว่าสูตรคำนวณหาร 500 พรรคไม่ได้ได้เปรียบ เพราะการหาร 500 จะต้องมีเกณฑ์ ส.ส. พึงมี ซึ่งถือว่ายากสำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา แต่พรรคจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ มีการวางอนาคตที่จะเติบโตต่อไป พร้อมยอมรับว่ามีการทาบทาม ชักชวนผู้ที่จะมาสมัครเป็น ส.ส.เขตของพรรค เพื่อขยายฐานให้เพิ่มขึ้น ดังนั้น หมายความว่าหากมีการใช้สูตรหาร 500 ถ้าจะได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคต้องทำงานหนักมาก ถือว่าสูตรนี้ไม่ได้ง่ายสำหรับ แต่ก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่

สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาอาจจะส่งผู้สมัครไม่ครบทั้ง 400 เขต แต่จะส่งในเขตที่มีความพร้อม เพราะไม่ใช่พรรคใหญ่ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งปี 2562 พรรคส่งครบทุกเขต เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว แต่ครั้งนี้เป็นบัตร 2 ใบ จึงไม่ส่งทุกเขต 

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่กังวลกรณี ส.ส.ของพรรคจะถูกซื้อตัว เพราะเป็นปกติของใกล้ช่วงเลือกตั้ง ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ การดึงตัว ถ่ายเท เปลี่ยนพรรค มีเกิดขึ้นเสมอ อยู่ที่ว่าพรรคไหนมีความน่านิยม และผู้สมัครมีความสนใจในพรรคนั้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ส่วนตัวเชื่อมั่นใน ส.ส. ของพรรคทั้ง 12 คน ว่าจะไม่ไปไหน เพราะทำงานร่วมกัน มีการดูแลกันอย่างเต็มที่ และอยู่กันอย่างพี่น้อง 

ส่วนจะมีการดึงตัวคนเก่ากลับมาหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่ย้ำว่าพรรคชาติไทยพัฒนา หวังจะเติบโต ไม่หยุดอยู่แค่นี้ จึงยอมรับว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ จนไปถึงวันที่การประกาศยุบสภา

สำหรับกฎหมายลูกวาระที่ 3 จะมีการเปิดฟรีโหวตหรือไม่นั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยในพรรค ซึ่งคิดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนที่มีข่าวว่าจะคว่ำกฎหมายลูกในวาระ 3 ก็ต้องมีการคุยกันอีกครั้ง แต่ที่ได้ยินมาก็มีการพูดกันว่าจะสูตรหาร 100 หรือหาร 500 ก็ขัดรัฐธรรมนูญ

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น ถือเป็นธรรมเนียมตั้งแต่สมัย นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจบลง เช้าวันรุ่งขึ้นจะมีการโหวต ซึ่งพรรคจะมีการนัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น โดยจะดูหลักฐานข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน และคำชี้แจงของรัฐมนตรีว่าแต่ละฝ่ายเป็นอย่างไร ซึ่งทุกครั้งความเห็นของ ส.ส.ก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

"ถ้าหากรัฐมนตรีชี้แจงได้ชัดเจน ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็จะโหวตให้ แม้รัฐมนตรีของพรรคจะไม่ได้ถูกอภิปราย แต่หากมีการพาดพิงถึงหน่วยงานที่พรรครับผิดชอบ รัฐมนตรีก็จำเป็นต้องชี้แจง"น.ส.กัญจนา กล่าว