
8 กรกฎาคม 2565 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐสภาโหวตสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หาค่าเฉลี่ย ส.ส. 1 คน หารด้วย 500 ว่า ที่รัฐสภาโหวตหาร 500 เป็นการคิดแบบเดิม คือ จัดสรรปันส่วนผสม เพื่อเปลี่ยนจากบัตรใบเดียวเป็นบัตร 2 ใบ และนำมาคิดเฉพาะบัตรบัญชีรายชื่อเท่านั้น
ทั้งนี้ ในการโต้แย้งประเด็นดังกล่าวตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ สมาชิกรัฐสภาไม่สามารถเข้าชื่อเพื่อที่จะยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่พรรคเพื่อไทยจะทำความเห็นแย้งประกบไปกับร่างกฎหมายหลังรัฐสภาโหวตวาระ 3 ที่ประธานรัฐสภาจะส่งร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับไปยังศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง คือ กกต. เพื่อพิจารณาชี้ขาดว่ามีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
อย่างไรก็ตาม จากนั้นหน่วยงานดังกล่าวจะทำความเห็นส่งกลับมายังรัฐสภาว่าขัดหรือแย้งหรือไม่ หรือมีข้อทักท้วงหรือไม่ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐสภาบรรจุวาระการประชุมหารือให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าร่างถูกตีตก เมื่อรัฐสภาปรับแก้ตามคำทักท้วงแล้ว ก็นำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ และหากศาลหรือองค์กรอิสระทักท้วงมาว่าการหาร 500 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ รัฐสภาต้องนำกลับมาแก้เป็น 100 และเหตุผลที่เพื่อไทยต้องรอ เพราะด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญกำหนดขั้นตอนไว้แล้ว
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองเหตุผลที่รัฐบาลพลิกเกมเปลี่ยนโหวตหาร 500 คือ สกัดแลนด์สไลด์พรรคเพื่อไทย แต่เหตุผลหลัก มาจากเหตุเกมส์พลิกข้ามคืนวันจันทร์ที่ 4 ก.ค. จากสัญญาณที่สื่อลงข่าวมีการเคาะโต๊ะ เกิดจากการต่อรองการอภิปรายไม้ไว้วางใจของพรรคการเมืองหนึ่งที่มีเสียง 30-40 เสียงในสภาฯ โดยเฉพาะคนต่อรองต้องการเอาชนะคะแนนไม่ไว้วางใจ และเห็นว่า 30-40 เสียง มีประโยชน์ ซึ่งผู้มีอำนาจถูกบีบคอตลอดจนต้องให้
สำหรับเรื่องสูตรคำนวณหาร 500 พรรคฝ่ายค้านจะหยิบยกเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ฐานจงใจกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญด้วย หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นในการสั่งการให้รัฐสภาโหวตสูตรคำนวณหาร 500 อันเป็นการฝ่าฝืนระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ระบบรัฐสภา ระบบแบ่งแยกอำนาจ ในการก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ
"ซึ่งถือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบบประชาธิปไตย ทำให้เสื่อมเสียหาย รวมถึงการกระทำจงใจฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ครอบงำชี้นำ ซึ่งถือเป็นความอัปยศในระบบรัฐสภาไทยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในประวัติศาสตร์ และจากนั้นหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไปร้อง ป.ป.ช.ไต่สวนเอาผิดตามกฎหมาย" นพ.ชลน่าน กล่าว
อย่างไรก็ดี ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างกฏหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับ จะนัดพิจารณาเพื่อปรับแก้ร่างกฏหมายให้สอดรับกับสูตรการคิดคำนวนหารด้วย 500 ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ ก่อนที่รัฐสภา จะนำเข้าสู่วาระการประชุมวาระ 2-3 อีกครั้งในวันที่ 26 และ 27 ก.ค.