svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ดร.กอบศักดิ์ ชี้ ทำไมธนาคารกลางนานาประเทศ ต้องประกาศทำสงครามกับเงินเฟ้อ

เปิดมุมมองอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี "ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล" ประธาน FETCO เผยถึงเหตุผล ความจำเป็นที่ธนาคารกลางนานาประเทศ ต้องทำสงครามต่อสู้กับเงินเฟ้อ พร้อมรายชื่อ 12 ประเทศที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งเกินระดับ 30%

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลก ถึงเหตุผลทำไมธนาคารกลางนานาประเทศ ต้องประกาศทำสงครามกับเงินเฟ้อ แม้อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอ เกิด Recession ก็ตาม!!

เนื้อหาที่น่าสนใจ ระบุไว้ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 

... 

ช่วงนี้...เงินเฟ้อในประเทศต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น
อังกฤษ 9.1%
สหรัฐ 8.6%
เยอรมัน 7.9%
ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 กว่าปี

 

ทำให้ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ต้องออกมาประกาศสงครามกับเงินเฟ้อ
และบอกว่า ยังไงก็จะต้องเอาเงินเฟ้อกลับลงระดับปกติให้ได้
แม้จะหมายถึง เศรษฐกิจที่อาจชะลอลงและเกิด Recession ก็ตาม 

 

หลายคนถามว่า ทำไมต้องสู้กันถึงขนาดนี้ 
วันนี้ ก็เลยขอนำข้อมูลมาฝากให้ดูว่า
เวลาที่ธนาคารกลาง "สอบตกในการควบคุมเงินเฟ้อ"
เงินเฟ้อที่ว่าสูงได้นั้น สูงได้แค่ไหน

ดร.กอบศักดิ์ ชี้ ทำไมธนาคารกลางนานาประเทศ ต้องประกาศทำสงครามกับเงินเฟ้อ

ในตาราง จะเห็นรายชื่อ 12 ประเทศที่เผชิญปัญหาเงินเฟ้อสูงสุดขณะนี้ 
ตั้งแต่ประมาณ 30% ขึ้นไป
บางชื่อ คือ ประเทศที่เรารู้จักกันดี เช่น                                         

ดร.กอบศักดิ์ ชี้ ทำไมธนาคารกลางนานาประเทศ ต้องประกาศทำสงครามกับเงินเฟ้อ

เลบานอน 211%
เวเนซูเอล่า 167%

ตุรกี 73.5%
อาร์เจนตินา 60.7%
อิหร่าน 39.3%
ศรีลังกา 39.1%
เอธิโอเปีย 37.7%

สำหรับประเทศที่เงินเฟ้อสูงขนาดนี้ คนลำบากก็คือ ประชาชนที่ต้องรับภาระราคาสินค้าที่เพิ่มสูงตลอดเวลา ต่อให้เศรษฐกิจยังโต แต่เงินได้ของทุกคนก็จะถูกกัดกร่อนจากเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น เงินเดือนที่มี พอถึงปลายปี จะซื้อของได้ลดลง 

กรณีเลบานอน จะซื้อของได้ไม่ถึงครึ่งของที่เคยซื้อได้ในช่วงต้นปี !!!           

นี่คือ ฝันร้ายที่เหล่าธนาคารกลางไม่ต้องการให้เกิดขึ้น

ดร.กอบศักดิ์ ชี้ ทำไมธนาคารกลางนานาประเทศ ต้องประกาศทำสงครามกับเงินเฟ้อ
ขอบคุณข้อมูลจาก Trading Economic ครับ

ดร.กอบศักดิ์ ชี้ ทำไมธนาคารกลางนานาประเทศ ต้องประกาศทำสงครามกับเงินเฟ้อ

 

 

ก่อนหน้านี้ ...

ประธาน FETCO "กอบศักดิ์ ภูตระกูล" ชี้'ข้อดี' ในความกังวลภาวะ Recession ดึงให้ราคาตลาดน้ำมันสู่ภาวะสมดุล และอาจส่งผลต่อระดับเงินเฟ้อ-การปรับขึ้นดอกเบี้ย จับตาระหว่าง ความกลัวเศรษฐกิจถดถอย และการแซงชั่นน้ำมัน

อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจโลกว่า ความกลัวว่าจะเกิด Recession ก็มีข้อดีเช่นกัน  

โดยระบุว่า ล่าสุด ราคาน้ำมันโลก WTI และ Brent ปรับลดมาที่ 100-110 ดอลลาร์/บาเรล วันนี้เพียงวันเดียว ลดลง 5% !!!ทำให้ราคาน้ำมันโลกถอยย้อนหลังกลับไปเท่ากับ เมื่อช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา

หากทุกคนยังจำได้ หลังประเทศจีนเริ่มเปิดเมืองอีกครั้ง หลายคนกังวลใจว่าจะต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น น้ำมันโลกจะไม่เพียงพอ ราคาจึงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ส่วนที่ราคากลับลดลงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เพราะมีนักวิเคราะห์จากหลายสำนักออกมาคาดการณ์สอดรับกันว่า เศรษฐกิจโลกมีโอกาสมากขึ้นที่จะต้องเผชิญกับภาวะ Recession ใน 1 ปีข้างหน้า

หากเกิดขึ้นจริง การผลิต การขนส่ง การใช้น้ำมันของทุกประเทศลดลง จะทำให้ Demand และ Supply ของตลาดน้ำมันโลกเข้าสู่ความสมดุลมากขึ้น

..

ดร.กอบศักดิ์ ชี้ ทำไมธนาคารกลางนานาประเทศ ต้องประกาศทำสงครามกับเงินเฟ้อ

ด้วยความกลัวดังกล่าว ราคาน้ำมันโลกจึงลดลงมาอีกรอบ อันจะมีนัยยะไปถึงระดับเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ต่อไป

เพราะถ้าราคาน้ำมันโลกยืนอยู่ตรงนี้ (100-110) ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ในเดือนนี้และเดือนหน้า ก็น่าจะไม่พุ่งไปไกล และทำให้เฟดและธนาคารกลางประเทศต่างๆ หายใจสะดวกขึ้น

มารอดูกันต่อว่า จะเกิดอะไรต่อไป ความกลัว Recession หรือภาวะตลาดน้ำมันตึงตัวจากการ Sanctions จะชนะครับ

เพราะปีนี้ อะไรก็พลิกผันไปมาได้ สมกับที่เป็น Economic Turbulence 2022 ครับ
ดร.กอบศักดิ์ ชี้ ทำไมธนาคารกลางนานาประเทศ ต้องประกาศทำสงครามกับเงินเฟ้อ

ขอขอบคุณที่มา : เฟซบุ๊ก Kobsak Pootrakool