จากกรณี “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน” ได้ผุดแคมเปญ “เตามหาเศรษฐี” เตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง” หรือ “เตาซุปเปอร์อั้งโล่” ซึ่งเป็นเตาที่พัฒนาขึ้นมาทดแทนเตาอั้งโล่ตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งมีประสิทธิภาพเชิงความร้อนมากกว่าเตาอั้งโล่ตามท้องตลาดถึง 29% ถ้าหากตามบ้านเรือนหันมาใช้เตามหาเศรษฐีจะสามารถประหยัดไม้ ฟืนและถ่านที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ถึง 500-600 บาท/ครัวเรือน/ปี และช่วยลดการใช้แก๊ส LPG ในครัวเรือน
ล่าสุด (22 มิ.ย.65) รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์แนะนำ ได้โพสต์ข้อความแนะนำสำหรับผู้ที่มาสะดวกใช้ “เตามหาเศรษฐี” ให้ใช้ “เตาอินฟาเรด" นวัตกรรมประหยัดแก๊สอย่างมีประสิทธิภาพแทน
โดยข้อความระบุว่า
แนะนำ "หัวเตาแก๊สอินฟาเรด" นวัตกรรมประหยัดแก๊ส (และวิธีต่างๆ ในการประหยัดแก๊สหุงต้ม) ช่วงนี้กระแสเรื่องหาทางประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน กำลังเป็นประเด็นใหญ่ หลังจากที่ค่าใช้จ่ายด้านนี้พุ่งสูงขึ้นทุกอย่าง ไม่ว่าจะค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน (โดยเฉพาะกลุ่มเบนซิน) ไปจนถึงค่าแก๊สหุงต้ม (ที่ขึ้นราคาต่อเนื่อง 1 บาทต่อ 1 กิโลกรัม ต่อเดือน จนทำให้ตอนนี้ราคาแก๊สถัง 15 กิโล มาอยู่ที่ 363 บาท และจะเป็น 408 บาทในเดือนกันยายนนี้)
ถ้าไม่มีครัวที่อยู่กลางแจ้ง จะหนีจากที่ใช้แก๊สหุงต้มในการประกอบอาหาร ไปใช้เตาถ่าน "เตามหาเศรษฐี" ก็ไม่สะดวกอีก เพราะต้องมากังวลเรื่องฝุ่นควันเรื่องก๊าซพิษที่เกิดขึ้น (ถึงจะเคลมว่าไม่มี ก็ดูไม่ค่อยน่ามั่นใจตามด้วยนะ) ใช้งานก็ไม่ค่อยสะดวก ติดไฟก็ไม่เร็วเท่าเตาแก๊ส แถมราคาถ่าน ก็ขึ้นตามมาอีก (ตอนนี้ราคาถุงละ 35 บาท จากเดิมถุงละ 30 บาท)
"หัวเตาแก๊สอินฟาเรด" นี่แหละครับ น่าสนใจดี เนื่องจากหัวเตาแก๊สแบบอินฟาเรดใช้แก๊สน้อยกว่าหัวแบบทองเหลือง ได้กว่า 40% เลยทีเดียวและก็แถมเรื่อง ทริคต่างๆ ในการใช้แก๊สหุงต้มให้ประหยัด ด้านล่างด้วยนะครับ "#หัวเตาแก๊สแบบอินฟาเรด VS #เตาแก๊สแบบธรรมดา"
- หัวเตาแก๊สอินฟาเรดจะมีลักษณะเป็นรูพรุน ผลิตจากแผ่นเซรามิคทนความร้อน สามารถทนความร้อนได้ในระดับดี มีขนาดของหัวเตาให้เลือกตั้งแต่ 5 นิ้ว, 6 นิ้ว และ 7 นิ้ว
- เตาแก๊สอินฟาเรด จะมีการทำงานแบบซึมแก๊ส โดยแก๊สจะถูกกักเก็บในหัวเตาก่อน แล้วค่อยๆ ปล่อยแก๊สออกมาตามรูพรุนมากมาย เปลวไฟของเตาแก๊สอินฟาเรดจึงต่ำหรือไม่มีเปลวไฟ ไม่เหมือนกับเตาแก๊สธรรมดา แต่ให้พลังงานความร้อนได้สูง
- ด้วยลักษณะการทำงานแบบซึมแก๊ส ทำให้เตาแก๊สอินฟาเรด ประหยัดแก๊สถึง 40% เลยทีเดียว
- แต่ด้วยลักษณะที่เป็นรูพรุนและวัสดุทำจากเซรามิค (ซึ่งมีลักษณะเปราะ) ทำให้อายุการใช้งานจะสั้นกว่าหัวเตาแก๊สแบบธรรมดา โดยปกติอายุการใช้งานอยู่ที่ 2-3 ปีในกรณีที่ใช้เป็นประจำ (แต่สามารถซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนได้)
- ส่วนหัวเตาแก๊สแบบธรรมดา จะทำจากเหล็กหรือทองเหลือง สามารถสื่อความร้อนได้ดี ปรับระดับความร้อนได้หลากหลาย และทนความร้อนสูงจึงทำให้อายุการใช้งานนานกว่า ปริมาณความร้อนจะมีมากกว่า เนื่องจากมีลักษณะการทำงานแบบพ่นแก๊สโดยตรง เปลวไฟพุ่งขึ้นสูงจากหัวเตา ไม่มีการกักแก๊สไว้เหมือนเตาอินฟาเรด
- แต่การทำงานแบบพ่นแก๊สโดยตรง ทำให้ใช้ปริมาณแก๊สมากกว่า และยังอาจทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ได้ อาจทำให้ก้นหม้อหรือกระทะที่ใช้ ดำได้
"#เคล็ดลับการประหยัดแก๊ส"
1.ภาชนะที่ใช้ปรุงอาหารจะต้องสะอาดไม่มีรอยไหม้ดำ กาต้มน้ำไม่ควรมีตะกรันเกาะจับอยู่เพราะจะทำให้อาหารสุกช้าหรือเดือดช้า
2.ไม่ควรตั้งเตาหุงต้มในที่มีลมพัดแรง หรือไม่ใช้พัดลมเป่าเข้าเตาเพราะเปลวไฟจะไม่สัมผัสกับภาชนะ และเกิดการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
3.ภาชนะที่ใช้ในการหุงต้มควรใช้ภาชนะก้นแบนที่มีขนาดพอเหมาะ โดยใไม่ควรให้เปลวไฟพ้นออกจากก้นภาชนะ
4. การประกอบอาหาร ควรใช้ภาชนะที่มีขนาดเหมาะสมกับปริมาณอาหาร เพราะถ้าภาชนะใหญ่เกินไป ก็จะทำให้สิ้นเปลืองก๊าซมากขึ้นในการทำให้ภาชนะร้อน
5.ควรเตรียมอาหารทุกอย่างให้เสร็จก่อน แล้วจึงค่อยปรุงอาหาทีละอย่าง เพราะจะทำให้ความร้อนม่สูญเสียไปขณะที่ต้องหยุดเตรียมอาหาร
6. กาต้มน้ำที่ใช้ ควรทำความสะอาดไม่ให้มีตะกรันจับ เพราะจะกลายเป็นฉนวนกันความร้อน ทำให้น้ำเดือดช้า และสิ้นเปลืองก๊าซมากขึ้น
7. ไม่เปิดเตาก๊าซทิ้งไว้ระหว่างเตรียมอาหาร
8.เมื่อใช้เตาก๊าซ สังเกตว่าเปลวไฟมีสีน้ำเงิน ซึ่งจะเป็นระดับที่ส่วนผสมของก๊าซพอดีกับอากาศ ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์และให้ความร้อนสูงสุด
9. เลือกขนาดหัวเตาให้เหมาะกับภาชนะ เพราะหากใช้กระทะใบเล็กแต่ใช้หัวเตาขนาดใหญ่ จะทำให้สิ้นเปลืองก๊าซโดยไม่จำเป็น
10.หมั่นทำความสะอาดหัวเตา เพราะหากอุดตันจะทำให้ก๊าซไม่สามารถออกมาได้
11.หันไปใช้เตาแก๊สหัวอินฟาเรด เนื่องจากหัวอินฟาเรดใช้แก๊สน้อยกว่าหัวทองเหลืองกว่า 40%
"#วิธีการบำรุงรักษาเตาแก๊สอินฟาเรด"
1. เช็ดรอยเปื้อนด้วยผ้านุ่ม ร่วมกับน้ำยาทำความสะอาดที่ออกฤทธิ์เป็นกลาง
2. ไม่ควรใช้ทินเนอร์ น้ำมันปิโตรเลียม หรือสารละลายที่มีส่วนผสมของคลอไรด์ กรด-ด่าง ในการเช็ดทำความสะอาดในส่วนวัสดุสแตนเลส
3. สามารถใช้ฟองน้ำหรือแปรงทำความสะอาดบริเวณหัวเตาแก๊ส เพื่อไม่ให้มีเศษอาหารอุดตันช่องปล่อยแก๊ส ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้หัวเตาทำงานผิดปกติได้
#เปรียบเทียบเรื่องค่าใช้จ่ายเตาแก๊สกับเตาไฟฟ้า"
เตาแก๊ส : ในปี 2565 รัฐเริ่มปรับขึ้นราคาแก๊สหุงต้มแบบขั้นบันได โดยถัง 15 กิโลกรัมจะราคาขึ้นไปถึง 363 บาท ครัวเรือนทั่วไปที่ใช่งานไม่เยอะ จะใช้ประมาณ 1-2 ถังต่อปี ขึ้นกับความถี่ในการใช้งาน ตกเฉลี่ยวันละ 1-2 บาทเท่านั้นเอง
เตาไฟฟ้า : หากเป็นเตาแผ่นความร้อนหรือเตาเซรามิค จะค่อนข้างกินไฟพอสมควร ทำให้ค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าค่อนข้างสูงกว่าเตาแม่เหล็กและเตาแก๊สมาก
เตาแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นเตาไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพที่สูงมาก เตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่ได้รับฉลากเบอร์ 5 จะกินไฟเพียง 5-7 บาทต่อชั่วโมงต่อหัวเตาเท่านั้น
ในช่วง พ.ค. 2565 การไฟฟ้ามีการปรับค่า FT ขึ้น 23.38 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าขึ้นไปแตะหน่วยละ 4 บาท หากนำมาคำนวณการใช้งานแล้ว ก็จะไม่ต่างอะไรกับเตาแก๊สมากมายนัก (แต่ยังมีต้นทุนภาชนะสำหรับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเฉพาะ เพิ่มเติมมาอีกส่วนหนึ่งด้วย)