พนักงานเกือบ 40,000 คน จากสหภาพแรงงานรถไฟ การเดินเรือ และการขนส่ง หรือ MRT ที่สังกัดการรถไฟอังกฤษ (เน็ตเวิร์ค เรล) และผู้ประกอบการเดินรถไฟอีก 13 ราย ผละงานประท้วงเมื่อวันอังคาร ทำให้เส้นทางรถไฟครึ่งหนึ่งหยุดวิ่ง และพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไม่มีรถไฟวิ่งให้บริการ นอกจากนี้สมาชิก MRT ในเครือข่ายรถไฟใต้ดินลอนดอนก็ร่วมหยุดงานประท้วงด้วยเช่นกัน
การสไตรก์ของพนักงานรถไฟครั้งใหญ่ที่สุดใน 30 ปี สร้างความโกลาหลทั่วประเทศ ทำให้การจราจรบนท้องถนนติดขัด การเดินทางต้องใช้เวลานานขึ้น และประชาชนต้องเลือกใช้การเดินทางด้วยวิธีอื่น ๆ รวมถึงจักรยาน
และเครือข่ายการเดินรถไฟจะยังหยุดชะงักต่อเนื่องในวันนี้ แม้ไม่มีคนงานหยุดงานในวันนี้ก็ตาม แต่เนื่องจากขาดแคลนแรงงานในกะกลางคืนในคืนที่ผ่านมา ทำให้คาดว่ารถไฟเที่ยวแรก ๆ จะล่าช้าไปราว 4 ชม. ในบางพื้นที่ และจะมีรถไฟวิ่งให้บริการได้เพียงเกือบ 60% จากระดับปกติ
ในการประท้วงครั้งนี้สหภาพ RMT ต้องการขอปรับขึ้นค่าจ้าง 7% แต่นายจ้างเสนอปรับขึ้นสูงสุดเพียง 3% ในขณะที่แรงงานต้องเผชิญค่าครองชีพพุ่งสูง โดยอัตราเงินเฟ้อปัจจุบันอยู่ที่ 9% และธนาคารกลางคาดว่าจะสูงขึ้นเป็นเกือบ 11% ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ขณะที่ RMT จะเจรจาเรื่องข้อเรียกร้องต่าง ๆ กับผู้แทนเน็ตเวิร์คเรลและผู้ประกอบการเดินรถไฟรายอื่น ๆ อีกครั้ง ก่อนที่จะมีการผละงานประท้วงครั้งใหม่ในวันพฤหัสบดีและวันเสาร์นี้ และรัฐบาลถูกวิจารณ์อย่างหนักที่ไม่เข้ามามีส่วนร่วมในการเจรจา โดยรัฐมนตรีย้ำว่าสหภาพแรงงานต้องเจรจาโดยตรงกับนายจ้างเอง
ส่วนสหภาพแรงงานยังเตือนว่าการสไตรก์ของพนักงานรถไฟ อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการผละงานประท้วงของแรงงานในภาคส่วนอื่น ๆ เช่น ครู บุคลากรการแพทย์ พนักงานเก็บขยะ และแม้แต่ทนายความ
ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารว่า การสไตรก์ของพนักงานรถไฟเป็นเรื่องผิดและไม่จำเป็น พร้อมกับย้ำว่าจำเป็นต้องมีการปฏิรูประบบการเดินรถไฟเพื่อประโยชน์ของประชาชน