"ปลัดพาณิชย์"ยันกระทรวงไร้อำนาจคุมราคากลั่นชี้เป็นหน้าที่ของก.พลังงาน

21 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2565 เวลา 16.00 น. เวลาท้องถิ่นของประเทศไอซ์แลนด์ ที่สนามบิน Keflavik ประเทศไอซ์แลนด์ โดย นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงประเด็นที่มีข้อเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 เข้ามากำกับดูแลค่าการกลั่นน้ำมัน เพื่อช่วยให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลง ว่า เรื่องดังกล่าวที่กำลังมีคนชี้มาที่กระทรวงพาณิชย์ว่าเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องราคาน้ำมัน ขอยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะอำนาจหน้าที่ในเรื่องของราคาน้ำมัน ถือเป็นสินค้าเฉพาะ มีข้อกฎหมายเฉพาะในการกำกับดูแล

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันฉบับที่หนึ่ง คือ พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ มาตรา 6 (2) กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติไว้ว่า คณะกรรมการชุดนี้ มีหน้าที่วางหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการกำหนดราคาพลังงาน โดยให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนการพัฒนาและบริหารพลังงานของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ถ้าดูกฎหมายนี้จะเห็นว่าคนเกี่ยวข้องกับราคาพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นการเฉพาะ คือ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และรมว.พลังงาน เป็นเลขานุการ ซึ่งการกำหนดราคาหรือการวางหลักเกณฑ์เรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องสอดคล้องกับนโยบายและแผนพัฒนาและบริหารพลังงานแห่งประเทศด้วย เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของกระทรวงพลังงาน

นายบุณยฤทธิ์ กล่าวต่อว่า มาตรา 27 พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กำหนดไว้ว่าใครเป็นผู้ต้องส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมาตรา 27 (1) โรงกลั่น 27 (2) ผู้นำเข้า ก็จะเห็นอยู่แล้วว่า กองทุนมีหน้าที่อะไรในเวลาสถานการณ์วิกฤติ ใครควรเข้ามาบริหารจัดการ และใครที่จะมีหน้าที่ส่งเงินเข้ากองทุน คือ ผู้ผลิตน้ำมันในประเทศ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายน้ำมันด้วย ซึ่งเป็นโรงกลั่น

"การใช้เงินเข้ากองทุนให้เป็นไปตามคณะกรรมการบริหารกองทุนกำหนด ประธาน คือ กระทรวงพลังงาน ที่กระทรวงพลังงานให้ข่าว คือ การใช้อำนาจตามกฎหมายที่กระทรวงพลังงานรับผิดชอบกำกับดูแลอย่างถูกต้องทางกฎหมายที่สุด กรณีใดๆที่เป็นสินค้าเฉพาะโดยหลักการของกฎหมาย ต้องไปว่าที่กฎหมายเฉพาะนั้นๆก่อน" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแล พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ถามว่าทำไมไม่ใช้ราคาตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งกรณีที่มีคนถามเช่นนี้นั้น โดยหลักการของกฎหมาย หากมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะสำหรับเรื่องใด นักกฎหมายย่อมเข้าใจดีว่า ต้องเดินเริ่มจากตรงนั้น เพราะกฎหมายกำหนดไว้ให้เห็นชัดเจนแล้ว

ขณะเดียวกัน ถ้าไปดูใน พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ท้ายกฎหมายจะเขียนไว้ด้วยว่า การบริหารพลังงานของประเทศ กระจัดกระจายตามหน่วยงานต่างๆ ดังนั้น เพื่อให้มีเอกภาพจึงได้จัดตั้ง คณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาเพื่อให้การบริหารจัดการเรื่องพลังงานมีเอกภาพ ดังนั้น กฎหมายชัดเจนที่สุด วัตถุประสงค์ ข้อกำหนด ที่มาเรื่องการมีกฎหมายฉบับนี้ ณ เวลานี้ อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายจึงอยู่ตามกฎหมาย 2 ฉบับดังกล่าว เพื่อตอบคำถามหลายข้อโดยเฉพาะในสังคมโซเชียลมีเดีย จึงขอให้เข้าใจว่าไม่ได้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่แรก 

ส่วนที่มีคนกล่าวอ้างว่ารมว.พาณิชย์ เป็นประธาน กกร. โดยตำแหน่งและในกฎหมายกำหนด ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสินค้าควบคุม อยู่ในอำนาจของประธาน กกร.อยู่แล้ว ตรงนี้ไปสัมพันธ์กับ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการที่กระทรวงพาณิชย์ดูแลหรือไม่นั้น โดยทุกวันนี้ LPG มีการประกาศราคาโดยกระทรวงพลังงาน ดังนั้น กระทรวงพลังงาน เป็นคนกำหนดราคา LPG ที่จะมีการปรับราคาขึ้นราคาเป็นขั้นบันได ว่าเดือนละเท่าไหร่ต่อครั้ง จะเห็นว่ากระทรวงพลังงานเป็นคนประกาศ ด้วยเหตุผลที่บอกแล้วและใช้เงินกองทุนในเรื่องนั้น วิธีการบริหารโดยใช้กฎหมายที่มีอยู่

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวย้ำว่า แต่ถามว่ากระทรวงพาณิชย์ทำอะไรในเรื่องของ LPG  หน้าที่กระทรวง คือ เมื่อกระทรวงพลังงานประกาศราคาออกมาแล้ว ใครขายเกินกว่านี้กระทรวงพาณิชย์จับ ซึ่งอาศัยมาตรา 29 คือ ผู้ใดจงใจจำหน่ายราคาสูงเกินสมควร มีโทษผิดพระราชบัญญัติราคา เช่น กระทรวงพลังงานแจ้งราคาถังละ 380 บาท ถ้าใครขาย 400 บาท กระทรวงพาณิชย์จับ เป็นต้น อันนี้เป็นตัวอย่างที่จะเห็นว่า LPG ประกาศราคาโดยกระทรวงพลังงานมาตลอดดังนั้นคำถามคือ เพราะเหตุใดกระทรวงพลังงานประกาศราคา LPG ได้ แต่พอมาราคาน้ำมันเหตุใดบางคนจึงมาบอกว่าให้กระทรวงพาณิชย์เป็นคนกำกับดูแล 

"ผมคิดว่าหน่วยงานราชการทุกหน่วยมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ กฎหมายใครก็กฎหมายคนนั้น กฎหมายกำหนดความรับผิดชอบอยู่ที่ใดผู้นั้นเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ควรที่ผู้ใดจะมาบิดเบือนหลักการนี้" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุ