นายชัยยุทธ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 9-13 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (AIRPORT INTERDICTION TASK FORCE: AITF) ตรวจพบผู้โดยสารชาวต่างชาติ ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ผ่านสนามบิน 2 แห่ง ดังนี้
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต ตรวจค้นชายต้องสงสัยอายุ 29 ปี สัญชาติแอฟริกาใต้ เดินทางมาจากกรุงแอดดิสอาบาบา สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย โดยผลการตรวจค้นสัมภาระไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่กลับพบว่า ข้อพิรุธอาจมีการลักลอบกลืนยาเสพติด จึงนำตัวไปโรงพยาบาลถลาง เพื่อเอกซเรย์ร่างกาย
กระทั่งพบสิ่งแปลกปลอมจำนวนมาก รูปร่างทรงกลม และทรงรีอยู่ในช่องท้อง จนสุดท้ายชายต้องสงสัยยอมรับสารภาพว่า ได้กลืนยาเสพติดเข้าไป โดยพบว่าเป็นโคเคนจำนวน 115 ก้อน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 1.49 กิโลกรัม มูลค่า 4.47 ล้านบาท
เบื้องต้นมีความผิดตามมาตรา 242 , มาตรา 252 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยมีการนำผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สาคู เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนอีกคดีเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.สำนักงานตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจค้นผู้ต้องสงสัย 3 ราย เดินทางมาจากสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยทำการเอกซเรย์ และตรวจค้นกระเป๋าเดินทาง จำนวน 5 ใบ พบยาคาอีน (COCAINE) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 15.70 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 47 ล้านบาท
จึงเอาผิดฐานนำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 เข้ามาในราชอาณาจักร และมียาเสพติดให้โทษประเภทไว้ในครอบครอง อันเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากร มาตรา 242 ประกอบมาตรา 166 มาตรา 167 และมาตรา 252 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป