อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ธนวรรธน์ พลวิชัย ระบุ หอการค้าไทยปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2565 ขยายตัวได้ 3.1% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 4.2% จากภาวะเศรษฐกิจที่เผชิญความเสี่ยงจากราคาน้ำมันแพงและราคาสินค้าที่แพงขึ้นตามราคาน้ำมันที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อค่อนข้างสูง ซึ่งส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนส.ค. และขึ้นต่อเนื่อง และปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ธนาคารกลางของหลายประเทศเริ่มดำเนินนโยบายสกัดเงินเฟ้อโดยการขึ้นดอกเบี้ยทำให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวต่ำลงโดยเฉพาะ สหรัฐ จีน และยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักในการส่งออก และการท่องเที่ยวของไทย
ทั้งนี้ จากภาพเศรษฐกิจโลกที่มีอุปสรรคเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกสินค้าคาดว่าปีนี้จะขยายตัวได้ 5-6% และการเปิดประเทศจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 6 ล้านคนโดยประมาณ รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการต่างๆทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเกือบปกติ ทำให้มีเม็ดเงินสะพัดเข้ามาในระบบเศรษฐกิจต่อเดือน 5-6 หมื่นล้านบาท ส่วนการที่เม็ดเงินจะไหลออกจากระบบเศรษฐกิจจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเดือนละ 1-2 หมื่นล้านบาท โดยรวมแล้วยังมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยมองว่าเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ