svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เปิดใจพี่ชาย เหยื่อสาว “คดีฆาตกรรมหมก BMW” ในประเทศไต้หวัน (มีคลิป )

13 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดใจพี่ชาย เหยื่อสาว “คดีถูกฆาตกรรมหมก BMW” สุดเหี้ยมในประเทศไต้หวัน หลายคนพยายามเตือนให้ระวังคนร้าย แต่สุดท้ายไม่ทันการณ์ (ชมคลิป )

 

จากกรณี นายประเสริฐ หรือ "มาส" โนราษ อายุ 32 ปี พร้อมด้วย น.ส.มี่ ภรรยาชาวไทย สัญชาติไต้หวัน ซึ่งตั้งท้องลูกแฝดได้ 5 เดือน ถูกคนร้ายฆาตกรรม และนำศพยัดท้ายรถ BMW โดยนำรถไปจอดทิ้งไว้ในลานจอดรถ หน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบศพ คาดว่าทั้ง 2 เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน อย่้างไรก็เตาม จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุ เป็นเพื่อนชาวไทย ที่มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี หลังเกิดก่อเหตุได้บินกลับมายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2565 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

เปิดใจพี่ชาย เหยื่อสาว “คดีฆาตกรรมหมก BMW” ในประเทศไต้หวัน (มีคลิป )

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายยิ่งยศ แซ่ลี่ พี่ชายนางสาวมี่ เปิดเผยว่า วันนี้ 23 มิ.ย.2565 ตนในฐานตัวแทนครอบครัว ได้เดินทางเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค5 เพื่อแจ้งความเอาไว้เป็นหลักฐาน กรณีน้องสาวถูกคนร้ายฆาตกรรมในประเทศไต้หวัน ซึ่งเหตุการณ์นี้ผ่านมาหลายวันแล้ว และทางสถานฑูตไต้หวัน ก็ได้มีการระบุว่า เอกสารต่างๆ จากประเทศไต้หวัน จะถึงประเทศไทยในวันนี้

 

เปิดใจพี่ชาย เหยื่อสาว “คดีฆาตกรรมหมก BMW” ในประเทศไต้หวัน (มีคลิป )

 

"การเดินทางมาพบตำรวจในวันนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่า ทางครอบครัวยังมีตัวตนอยู่ และการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ ค่อนข้างยากลำบาก เพราะเอกสารต่างๆ รวมทั้งข้อมูลสำคัญๆ ยังมาไม่ถึงประเทศไทย ทำให้ทั้งฝ่ายตำรวจ และทางครอบครัว ทำงานด้วยความยากลำบาก และเมื่อเอกสารมาถึงวันนี้ ผมก็มาแสดงตัวตนก่อน ซึ่งจะทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะการตดำเนินการติดตามตัวคนร้าย หรือผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้ไม่ทราบว่าได้หลบหนีไปไหนแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะมีคนช่วยเหลือผู้ต้องหาอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของการหลบหนี"

 

เปิดใจพี่ชาย เหยื่อสาว “คดีฆาตกรรมหมก BMW” ในประเทศไต้หวัน (มีคลิป )

 

ชมคลิป>>>

 

นายยิ่งยศ กล่าวอีกว่า คดีนี้เหี้ยมโหดมาก หลังจากเกิดเรื่องก็มีคนในหมูบ้านเห็นคนตัวร้าย แต่ก็ไม่มีใครกล้ามาเป็นพยาน เท่าที่ทราบ บ้านของผู้ก่อเหตุก็ไม่ธรรมดา เค้ามีอำนาจ มีบารมีในพื้นที่พอสมควร ซึ่งตนได้ยินเท่าที่ทราบข่าวมาว่า มีคนพบคนร้ายที่ก่อเหตุ ในช่วงวันที่ 9 หรือ วันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้เป็นคนเห็น แต่คนที่พบระบุว่า เห็นว่าช่วงเช้าได้ไปตลาด และไปส่งลูก ไปรับลูก

 

"สำหรับประวัติของ คนร้ายที่ก่อเหตุ จริงๆแล้วรู้จักกันดี และรู้จักผมด้วย โตมาด้วยกันกับน้องสาวผม เรียนมาห้องเดียวกัน ที่ผ่านมาเคยมีปัญหาเรื่องการลงทุนที่เชียงใหม่ น้องสาวผมก็เป็นคนเข้าไปช่วยเหลือ  ขนาดเดินทางไปที่ประเทศไต้หวัน และต้องไปกักตัว ก็ไปกักตัวที่บ้านน้องของผม ที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งการเดินทางไปไต้หวัน ก็ไปหางานทำ และเค้าก็เป็นคนเข้านอก-ออกใน  โดยที่คนในบ้านไม่กังวน ซึ่งบ้านที่ไต้หวันจะต้องใช้คีย์การ์ด หากไม่สนิทจะให้คีย์การ์ดหรือไม่" 

 

  เปิดใจพี่ชาย เหยื่อสาว “คดีฆาตกรรมหมก BMW” ในประเทศไต้หวัน (มีคลิป )

นายยิ่งยศ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาน้องสาวเคยเล่าให้ฟังว่า มีแรงงานไทยไปขโมยสร้อยทอง 15 บาท และเงินอีก 8 แสน ของคนร้ายรายนี้ ซึ่งตนก็ได้ปรึกษากับทนาย โดยมีการเปิดวีดีโอ.คอล คุยกันเลย ซึ่งหลายๆ คนก็พยายามเตือนว่า ให้ระวังบุคคลผู้นี้ไว้ เพราะไม่รู้ว่า อะไรจริง อะไรไม่จริง บางทีเรื่องไม่จริง โดยมีการเตือนได้เพียงไม่กี่วัน ก็เกิดเรื่องขึ้นเลย ซึ่งได้มีการเตือนไปในวันที่ 8 มิ.ย.เวลา 20.21 น. สาเหตุที่เตือน เพราะตนคิดว่าเป็นลางสังหอน และมีเรื่องเกี่ยวกับเงินทองด้วย ยิ่งทำให้เกิดความระแวงไปหมด และเงินทอง หรือสร้อยที่หายไป เป็นของผู้ต้องสังสัยก็จริง แต่ทั้งหมดเป็นเงินที่ยืมมาจากน้องสาวของตนเองทั้งหมด ดังนั้น เรื่องเงินเรื่องทอง อย่าได้ไปไว้ใจใครเด็ดขาด เพราะไม่รู้ว่าเค้าจะคิดอะไรยังไง ส่วนตัวผมเดี่ยวนี้ไม่เชื่อใจใครเลย เพราะต้องระวังตัวเองให้มากขึ้น

 

ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุเคยเปิดบริษัททัวร์ ในจังหวัดเชียงใหม่  และก็ขาดทุนไป ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า ขาดทุนไปกี่ล้าน และน้องสาวก็ได้ช่วยเหลือไปประมาณ 2-3 ล้านบาท  โดยการให้ยืมไป และเมื่อธุรกิจด้านบริษัททัวร์เจ๊ง ก็กลับบ้านไปกบดานสักระยะหนึ่ง จากนั้นจึงเดินทางไปประเทศไต้หวัน โดยน้องสาว และครอบครัวผม มีความชำนาญในเรื่องของแปลภาษา ทั้งไทย และจีน ดังนั้น จึงเดินทางไปเป็นหัวหน้าคนงาน รวมทั้งตัวผู้ก่อเหตุด้วย

 

 

ข่าววัสนต์ ปัญญาเรือน

 

logoline