อุทาหรณ์! จักรยานลงอุโมงค์โดนเก๋งชนดับ

เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 12 มิถุนายน 2565 ร.ต.ท.อรรฆฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนรถจักรยาน บริเวณก่อนถึงทางเข้าอุโมงค์สี่แยกถนนมิตรภาพอุดร-หนองคาย ประมาณ 100 เมตร ฝั่งขาเข้าเมืองอุดรธานี บ้านเก่าน้อย ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รุดไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานสีชมพู สภาพถูกชนล้อหลังพังยับ ใกล้กันพบศพนายสุมิตร กลิ่นหอมอ่อน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178 ม.6 ต.กุดสระ อ.เมืองอุดรธานี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต สภาพศพคอหัก กะโหลกศีรษะแตก ห่างไปราว 80 เมตร พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีขาว ทะเบียน กบ 6479 อุดรธานี ฝากระโปรงห้องเครื่องยนต์ด้านหน้า และกระจกหน้ารถ มีร่องรอยการเฉี่ยวชนอย่างแรง บนพื้นถนนก่อนถึงจุดเกิดเหตุ พบรอยเบรกของรถเก๋งคู่กรณียาวประมาณ 100 เมตร ก่อนที่รถจะจอดนิ่งห่างจากศพและจักรยานราว 80 เมตร โดยมีนายจักรพงษ์ ตุ้ยลี้ อายุ 38 ปี คนขับรถเก๋ง ยืนรออยู่ในที่เกิดเหตุด้วยอาการตกใจ 

จากการสอบสวน นายจักรพงษ์ ตุ้ยลี้ ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาเช้ามืดได้ขับรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี โดยใช้ทางลงอุโมงค์ที่อยู่เลนขวาสุด ซึ่งเป็นจังหวะที่ผู้ตายปั่นจักรยานอยู่เลนซ้ายสุด แต่ได้เปลี่ยนเลนเข้ามาตัดหน้ารถของตนอย่างกระชั้นชิด ก่อนถึงทางแยกลงอุโมงค์ เป็นขณะที่ตนเองขับมาด้วยความเร็ว ทำให้เบรกไม่อยู่ จึงเป็นเหตุทำให้ชนผู้เสียชีวิตขณะขี่จักรยานเข้าอย่างจัง และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

ร.ต.ท.อรรฆฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ เปิดเผยว่า ก่อนจะถึงทางลอดอุโมงค์ จะมีป้ายสัญญาณเตือน และห้ามรถจักรยาน รถสามล้อ และรถจักรยานยนต์ใช้ทางลอดอุโมงค์ อย่างไรก็ตามจะเชิญคนขับรถเก๋งมาสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายกำลังปั่นจักรยานจะไปโบสถ์คริสตจักรอุดรธานี ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้อาสากู้ภัยฯ นำไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อติดต่อญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ โบสถ์คริสตจักรสามัคคีธรรม พบกับนางสมจิตร์ ขอบใจ อายุ 63 ปี ผู้ช่วยศิษยาภิบาล คริสตจักรสามัคคีธรรมอุดรธานี เปิดเผยว่า นายสุมิตร ผู้เสียชีวิตเป็นสมาชิกที่โบสถ์ ทุกวันอาทิตย์จะมานมัสการพระเจ้าไม่เคยขาด ทราบข่าวว่าเขาประสบอุบัติเหตุประมาณ 06.00 น. รู้สึกเสียใจมากที่ต้องสูญเสียเขาไป ถ้ามาที่โบสถ์จะต้องเจอสุมิตรทุกเช้าวันอาทิตย์ เมื่อเขามาถึงจะเดินตามหาอาจารย์เพื่อยกมือไหว้สวัสดี เราก็จะถามเขาว่าทานข้าวหรือยัง เราก็จะให้เงินเขาไปครั้งละ 40 บาท เขาก็จะไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ร้านสะดวกซื้อมาทาน จะเป็นแบบนี้อยู่เป็นประจำ ที่โบสถ์จะมีการนมัสการพระเจ้า 2 รอบ เขาก็จะอยู่นมัสการทั้ง 2 รอบ ไม่เคยขาด เขาจะถือพระคัมภีร์อยู่ในมือตลอด แต่เขาอ่านหนังสือไม่ออก ทำให้เรารู้ว่าเขารักพระเจ้าของเขามาก  

นางฐิตาพร เทพนวน อายุ 47 ปี แม่บ้าน โบสถ์คริสตจักรสามัคคีธรรมอุดรธานี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า มาเป็นแม่บ้านที่นี่ได้ 8 ปี นายสุมิตรเป็นคริสเตียนมานานเกือบ 20 ปี ถือว่าเป็นสมาชิกรุ่นแรกๆ สุมิตรรักในพระเจ้ามาก ทุกวันอาทิตย์เขาจะมาที่นี่ก่อนใครเพื่อน เพื่อมาช่วยงานต่างๆ ในโบสถ์ พวกเราทุกคนรู้ว่าเขาจะใช้จักรยานปั่นมานมัสการพระเจ้า จะมีบางครั้งที่เดินเท้ามา เราทุกคนคอยเตือนเขาอยู่เสมอว่าให้ระมัดระวังในการเดินทาง เพราะเราเป็นรถเล็ก และเตือนตลอดว่าอย่าปั่นจักรยานลงอุโมงค์ เขาเป็นคนบอกง่ายใช้ง่าย ใช้ทำอะไรก็ไม่เคยบ่น เราก็จะดูแลเขา ให้เงินเขาไปซื้อของกินบ้าง เสร็จจากนมัสการพระเจ้าก็ทานข้าวเที่ยงด้วนกันทุกวันอาทิตย์ 

“เมื่อเช้านี้บังเอิญขับจักรยานยนต์ออกไปตลาด เป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุพอดี เห็นร่างนอนนิ่งบนถนนถูกคลุมด้วยผ้าขาว ก็คิดในใจว่าขออย่าให้เป็นสุมิตรเลย เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องมาที่โบสถ์ ขณะติดสัญญาณไฟแดง จึงได้สอบถามผู้ใช้รถด้วยกันว่า ทราบหรือไม่ว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาก็ตอบว่าเป็นชายปั่นจักรยาน ใจเราก็หล่นไปตาตุ่มแล้ว กระทั่งศิษยาภิบาลได้ไลน์มาบอกว่า สุมิตรถูกรถชนเสียชีวิตแล้วเมื่อเช้าวันนี้ เป็นสิ่งที่เราเสียใจมาก มาที่โบสถ์จะต้องเจอเขาตลอด ถึงเขาจะอ่านหนังสือไม่ได้  และเขาอาจจะดูไม่เต็มร้อย แต่ว่าเขาจะอธิษฐานถึงพระเจ้าอยู่ตลอด เขาบอกเสมอว่าเขาเป็นคนบาป แต่เขารักพระเจ้า เขาก็จะพูด จะอธิษฐานวนๆ อยู่แบบนี้มาตลอด ก่อนจะมาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต”

ภาพ/ข่าว: เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์  สำนักข่าวเนชั่น จ.อุดรธานี