รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” เป็นห่วงกรณีกระทรวงสาธารณสุข จะลดรายละเอียดในการรายงานสถานการณ์โควิด โดยรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรักษาในโรงพยาบาล เกรงว่าจะทำให้เกิดผลเสียระยะยาว มีรายละเอียดดังนี้...
31 พฤษภาคม 2565 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 307,761 คน ตายเพิ่ม 681 คน รวมแล้วติดไป 531,852,085 คน เสียชีวิตรวม 6,311,498 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีเหนือ ไต้หวัน ออสเตรเลีย เยอรมัน และญี่ปุ่น
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 84.23 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 87.95 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 67.14 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 31.42
สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนติดเชื้อเมื่อวาน รวม ATK ของไทย สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย ถึงแม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นมาจนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปก็ตาม
ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานคิดเป็น 12.14% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
อัพเดตความรู้เกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของไวรัสโรคโควิด-19
Subissi L และคณะได้ทำการเผยแพร่งานวิจัยทบทวนลักษณะการกลายพันธุ์ของไวรัสโรคโควิด-19 ตลอดช่วงการระบาดที่ผ่านมาว่า แต่ละสายพันธุ์มีการกลายพันธุ์ตรงตำแหน่งใดบ้าง และส่งผลต่อสมรรถนะการแพร่เชื้อติดเชื้อ การหลบหลีกภูมิคุ้มกัน และความสามารถในการจับกับตัวรับบนเซลล์ในอวัยวะต่างๆ ของคนอย่างไรบ้าง
งานวิจัยนี้ยังระบุให้เห็นถึงความสำคัญในการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของไวรัส เพราะไม่มีอะไรจะการันตีได้ว่า การกลายพันธุ์ในครั้งถัดๆ ไปจะเป็นเช่นไร
การไม่รายงานสถานการณ์การติดเชื้อรายวัน
ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังคงมีการรายงานจำนวนการติดเชื้อในแต่ละวันให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้คนมีความสามารถในการประเมินสถานการณ์ ประเมินความเสี่ยงในการดำรงชีวิตประจำวัน และตัดสินใจประพฤติปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องเหมาะสม
การเลือกที่จะนำเสนอเฉพาะจำนวนคนป่วย และคนเสียชีวิตเท่านั้น จะทำให้คนในสังคมเห็นภาพแค่เศษเสี้ยวของภาพจริงทั้งหมด และทำให้การรับรู้สถานการณ์คลาดเคลื่อนไป จนอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการระแวดระวังป้องกันตัว
กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็ติดเชื้อไปแล้ว ป่วยไปแล้ว หรือเสียชีวิต
ที่สำคัญ ความรู้ทางการแพทย์เราชี้ชัดแล้วว่า ติดเชื้อไม่ได้จบแค่หายหรือตาย แต่จะเสี่ยงต่อการเป็นภาวะผิดปกติระยะยาว หรือ Long COVID ได้
การประเมินความเสี่ยงต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิต
โดยหลักการแล้ว ไม่ว่าที่ใดในโลก ประชาชนสามารถประเมินสภาพสังคมที่อาศัยอยู่ได้ จากการสังเกตความเป็นไปรอบตัว คนรอบข้างทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน หรือละแวกที่พักอาศัยและใช้ชีวิตประจำวัน
สถานการณ์ต่างๆ ข้างต้น จะเป็น warning signs ที่ทำให้ต้องตระหนักว่าจำเป็นต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อสถานการณ์วิกฤติ กว่าจะรู้ตัว ก็ยากที่จะตั้งตัวรับมือหรือจัดการได้ทัน
เมื่อตกอยู่ในสภาพดังกล่าวข้างต้น คนที่ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ใส่ใจต่อเรื่องสุขภาพ สวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของตนเอง และระมัดระวังในการดำเนินชีวิตประจำวัน ก็จะมีความเสี่ยงน้อยกว่าคนที่ประมาท
ตั้งแต่มิถุนายนเป็นต้นไป โรคระบาดยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่ข้อมูลสถานการณ์ต่างๆ นั้นอาจมีอย่างจำกัด
ปลดล็อคกัญชา โดยมีบทเรียนจากต่างประเทศชี้ให้เห็นแล้วว่าอาจมีผลกระทบต่างๆ ทางสุขภาพและสังคมตามมา
ฝีดาษลิงกำลังแพร่กระจายไปประเทศต่างๆ ทั่วโลก
"การใส่หน้ากากถือเป็นอาวุธด่านสุดท้าย ที่ประชาชนจะมี เพื่อใช้ป้องกันตัวเสมอเวลาออกไปดำเนินชีวิตประจำวัน ทำมาหากิน ศึกษาเล่าเรียน และจะป้องกันได้ทั้งโควิด-19 และฝีดาษลิง และควรระมัดระวังพฤติกรรมเสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง สถานที่เสี่ยงด้วย เพราะโอกาสรับรู้สถานการณ์ของคนในสังคมจะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก คงต้องดูแลตนเอง ครอบครัว และคนใกล้ชิดให้ดี เพื่อประคับประคองให้ปลอดภัยไปด้วยกันจนกว่าสถานการณ์ทั่วโลกจะดีขึ้นไปพร้อมกัน เชื่อมือเชื่อมั่นและเชื่อใจ...ตนเอง" หมอธีระ ระบุในตอนท้าย
อ้างอิง : Subissi, L., von Gottberg, A., Thukral, L. et al. An early warning system for emerging SARS-CoV-2 variants. Nat Med. 30 May 2022.