รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” เปิดผลการวิจัยการแพร่ระบาดของโควิด-19 “โอมิครอน” สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 หลบภูมิคุ้มกันเก่งทำให้ติดเชื้อซ้ำ น่าเป็นห่วง ภาวะ Long COVID ส่งผลระยะยาว มีรายละเอียดดังนี้...
30 พฤษภาคม 2565 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 314,655 คน ตายเพิ่ม 442 คน รวมแล้วติดไป 531,543,390 คน เสียชีวิตรวม 6,310,708 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีเหนือ ไต้หวัน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 84.69 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 87.1 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 69.55 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 55.2
สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนติดเชื้อเมื่อวาน รวม ATK ของไทย สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย ถึงแม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นมาจนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปก็ตาม
ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานคิดเป็น 9.83% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
อัพเดตสายพันธุ์ BA.2.12.1 BA.4 และ BA.5 ในอเมริกา
วันก่อน Bedford T, FHCRC ประเทศสหรัฐอเมริกาชี้ให้เห็นว่า สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 มีโอกาสที่จะทำให้ระบาดปะทุขึ้นมาได้จากสมรรถนะการหลบหลีกภูมิคุ้มกัน (breakthrough infection) และการทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำแม้เคยติดเชื้อสายพันธุ์ก่อนหน้ามาก่อน (reinfection)
ผลกระทบระยะยาวต่อสังคม
การระบาดที่กระจายไปทั่วและไม่สามารถจัดการควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงที่ผ่านมานั้น จะส่งผลระยะยาวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ การติดเชื้อไปอย่างต่อเนื่อง โดยวัคซีนนั้นจะช่วยป้องกันการป่วยหนักและลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ แต่ไม่ได้การันตีผล 100% มากน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีนที่ได้รับ
นอกจากนี้ Long COVID หรือภาวะผิดปกติระยะยาวก็มีโอกาสเกิดขึ้น โดยยังไม่มีวิธีรักษาและวิธีป้องกันอย่างจำเพาะเจาะจง ยกเว้นการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ
หากติดตามความเป็นไปตลอดสองปีกว่าที่ผ่านมา เปรียบเหมือน interplay ระหว่างสถานการณ์ระบาด ความรู้ นโยบาย และการเมือง ซึ่งสุดท้ายแล้วการตัดสินใจเดินเส้นทางต่างๆ นั้น บางเส้นทางก็จะเป็นทางที่มีแต่ทางไป ไม่มีทางหวนกลับ
การเตรียมรับมือผลกระทบระยะยาวต่อสังคมเป็นเรื่องสำคัญของทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อให้สามารถประคับประคองให้อยู่รอดปลอดภัย ผ่านพ้นวิกฤติไปตามสมควร
ณ จุดปัจจุบัน หลายประเทศตกอยู่ในลักษณะ A train with no return จึงจำเป็นต้องมองในลักษณะแพ็คเกจนโยบาย Save who can be saved เพื่อปกป้อง ป้องกันคนจำนวนมากที่ยังรอดปลอดภัยจากความเสี่ยงที่มีในสังคม และนโยบายช่วยเหลือ สนับสนุนแก่คนจำนวนไม่น้อยที่มีโอกาสเกิดผลกระทบในระยะยาว
ไม่ใช่แค่เรื่องโรคระบาดโควิด-19 เท่านั้น เรื่องปลดล็อคกัญชาก็เช่นกันที่มีบทเรียนต่างประเทศชี้ให้เห็น negative externalities ในระยะยาว ทั้งเรื่องอุบัติเหตุจราจร รวมถึงปัญหาด้านสังคมอื่นๆ
“ สำหรับไทยเรา ย้ำอีกครั้งว่า การใส่หน้ากากเสมอเวลาออกไปใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้านเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ” หมอธีระ ระบุในตอนท้าย