"สุทิน"ยันงบ 66 พบข้อบกพร่องเพียบ ย้ำฝ่ายค้านมีหน้าที่ถ่วงดุล

30 พฤษภาคม 2565 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการหารือการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2566 ว่า ในการประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านวันนี้ (30 พ.ค.) จะทบทวนเรื่องการจัดสรรเวลาการอภิปราย รวมถึงการวางโครงสร้างการอภิปราย ทั้งตัวผู้ที่จะอภิปรายแต่ละพรรค ลำดับสคริปต์ และประเด็นว่าควรจะร้อยเรียงเรื่องราวเริ่มจากอะไร อย่างไร เบื้องต้นได้จัดสรรเวลาการอภิปรายให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะลดหลั่นกันไปตามสัดส่วนอย่างที่ผ่านมา 

ส่วนแนวทางการอภิปรายเพื่อให้เห็นถึงข้อบกพร่องของร่างฉบับนี้นั้น ซึ่งได้วิเคราะห์แล้วพบว่าร่างงบประมาณมีจุดอ่อน และจะชี้ให้เห็นว่างบส่วนไหนที่ได้จัดไปแล้ว และไม่ควรทำในสถานการณ์แบบนี้ ในขณะที่งบประจำที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี สุดท้ายจัดทำงบฯ ไปเรื่อยๆ ก็จะมีแต่งบประจำ ทั้งที่จริงๆ ควรจะควบคุมงบประจำให้ลดลง นอกจากนี้ยังมีเรื่องไม่ชอบมาพากล และส่อทุจริต 

ส่วนที่เคยระบุว่าร่างงบฯ ฉบับนี้เหมือน "ขอทานจัดงานเลี้ยงวันเกิด" และมีการจัดงบลงพื้นที่ให้พรรคร่วมรัฐบาล นายสุทิน กล่าวว่า มีข้อมูลนี้อย่างชัดเจนที่มีการแบ่งงบให้พรรคร่วมไปลงพื้นที่ของตัวเอง ส่วนคำว่า "ขอทานจัดงานเลี้ยงวันเกิด" นั้น มีคนไปบิดเบือน ว่าไปว่าประชาชนเป็นขอทาน แต่หมายถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เป็นผู้จัดงบ เป็นขอทาน ปัจจุบันงบประมาณที่ใช้เป็นส่วนของเงินกู้ ซึ่งควรจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างรายได้และให้หลุดหนี้ แต่กลับนำเงินส่วนนี้มาแจกให้พรรคร่วมรัฐบาล เป็นการจัดงบโดยไม่คิดถึงยุทธศาสตร์ จัดงบตามที่กระทรวงต่างๆ ของพรรคร่วมขอมา จึงมองว่าต่อให้กู้เงินมา ก็จะไม่มีการหลุดพ้นจากการเป็นขอทาน เพราะว่ามาแจกกันใช้ มาแจกกันกิน 

ส่วนรัฐบาลมั่นใจว่าจะมีเสียงเพียงพอในการโหวตผ่านวาระ 1 และเชื่อว่าการจัดทำงบมีความเหมาะสมนั้น นายสุทิน กล่าวว่า เสียงฝ่ายรัฐบาลมีเยอะอยู่แล้ว จึงมีความได้เปรียบที่จะโหวตผ่านร่าง และในทุกยุครัฐบาลไม่เคยวิตกกับเรื่องโหวตผ่านงบ แต่รัฐบาลชุดนี้มีจุดอ่อนที่จัดงบผิดพลาด มองออกว่าตลอด 8 ปี ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดงบมาก็เป็นแบบนี้

เมื่อถามว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีแผนสำรอง หากรัฐบาลไม่ยอมปรับเปลี่ยนแผนตามคำแนะนำของพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เบื้องต้นคงต้องหารือกัน ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะว่ารัฐบาลคงจะไม่แก้ไข เราจึงทำได้ในแง่ของการตีแผ่ให้สังคมได้รู้

ส่วนที่ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาล ระบุหากฝ่ายค้านไม่ยอมทำหน้าที่ ก็ให้ลาออกไป นายสุทิน กล่าวว่า นายนิโรธเป็น ส.ส.อีกระดับหนึ่ง ซึ่งต้องชวนให้นายนิโรธคิดว่า การจัดทำงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของการเป็นรัฐบาล หากจะให้ฝ่ายค้านผ่านทุกอย่างที่รัฐบาลส่งมา โดยคิดว่าต้องมีสำนึกห่วงชาวบ้าน แล้วจะเกิดการถ่วงดุลของสภาอย่างไร ถ้ารัฐบาลจัดทำงบไม่ดีแล้วฝ่ายค้านปล่อยให้ผ่าน นี่คือการไม่ทำหน้าที่ วันนี้ (30 พ.ค.) ฝ่ายรัฐบาลออกมาร้อนรนว่าถ้าฝ่ายค้านไม่ให้ผ่านงบ เหมือนการทำร้ายชาวบ้านและทำให้ประเทศไปไม่รอด ถือเป็นเจตนาพูดให้ประชาชนเข้าใจผิด

"รัฐธรรมนูญเขียนไว้เป็นทางให้แล้ว เพื่อให้เกิดการพิจารณางบอย่างรอบคอบและเป็นประโยชน์ที่สุด คือ ร่างงบจะตกก็ได้โดยไม่กระทบกับประชาชน โดยให้นำร่างงบปีเก่ามาใช้ไปพลาง ถือเป็นการเปิดโอกาสไว้ว่าหากร่างงบไม่ดี เมื่อถูกตีตก ชาวบ้านไม่เดือดร้อน และให้รีบกลับไปทำมาใหม่ หากจะใช้โอกาสที่รัฐธรรมนูญเปิดไว้ให้ แล้วจะผิดตรงไหน ถ้าไม่ใช้สิผิด" นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะนำคะแนนความนิยมของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อย่างท่วมท้น ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการสะท้อนคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ตกต่ำลง มาตัดสินใจว่าจะคว่ำร่างงบฉบับนี้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า จากผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นักการเมืองทุกคนจะต้องคิดว่า ประชาชนต้องการอะไร 

ส่วนที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุต้องยึดประชาชนเป็นที่ตั้งนั้น นายสุทิน กล่าวว่า กำลังยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง เสียงประชาชนที่สะท้อนออกมาจากการเลือกตั้ง กทม. และการรับฟังเสียงชาวบ้านตามต่างจังหวัด ยืนยันว่าชาวบ้านรับรัฐบาลไม่ได้แล้ว สิ่งที่ชาวบ้านอยากให้ทำที่สุด คือ การกระตุกเตือน ถ้างบประมาณใช้ไม่ได้ ก็จะไม่ให้ผ่าน นี่คือความต้องการของประชาชน ถ้าไม่ทำตามนี้ชาวบ้านจะเดือดร้อน บ้านเมืองลำบาก เพราะหลับหูหลับตาผ่านงบ นี่คือการไม่ยึดประชาชน ดังนั้น จึงขอย้ำว่าฝ่ายค้านทำงานโดยยึดประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ได้ยึดรัฐบาลเป็นสำคัญ