เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 27 พฤษภาคม 2565 ที่สภ.เวฬุวัน นายธีรนิติ มรินนา เจ้าหน้าที่ พมจ.ขอนแก่น และ นางสาวสิริพร นราธร นิติกรสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น พานางเอ(นามสมมุติ) อายุ 57ปี แม่ของ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ผู้ป่วยจิตเวช ชาวตำบลบ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.นรินทร์ศักดิ์ รักความซื่อ รองสว.สอบสวน สภ.เวฬุวัน กรณีที่ นางสาวบี ถูกข่มขืน จนตั้งครรภ์และคลอดบุตรเพศชาย เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ภายหลังเข้าแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหนังสือส่งตัวนางสาวบี ไปตรวจร่างกายที่รพ.ศูนย์ขอนแก่น โดยเจ้าหน้าที่ พมจ.ขอนแก่น ได้ประสานกับนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านค้อ นำรถกู้ชีพมารับตัวผู้เสียหายส่งรพ.เพื่อตรวจร่างกายตามขั้นตอนต่อไป
ขณะที่ นางสาวสิริพร นราธร นิติกรสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงการพาแม่และนางสาวบี เข้าแจ้งความในครั้งนี้ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว แม้จะผ่านมาจนถึงขั้นคลอดบุตรแล้วก็ตาม แต่คนถูกกระทำคือผู้เสียหาย ที่จะต้องได้รับการเยียวยามตามกฎหมายยุติธรรม จึงได้มาแจ้งสิทธิ์ให้มารดาและผู้เสียหายทราบสิทธิ์ของตัวเอง แต่ก่อนจะได้รับสิทธิ์ตามกฎหมาย แม่และคนถูกกระทำ คือนางสาวบี ต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มีการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอน และสรุปสำนวนคดีก่อน จึงจะได้รับสิทธิ์นั้น ซึ่งเมื่อทราบสิทธิ์ของตัวเองแล้ว มารดาและลูกสาวก็ยื่นคำร้องขอสิทธิ์นั้นเรียบร้อยแล้ว จึงได้เดินทางมาแจ้งความ โดยภายหลังแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนไป ส่วนยุติธรรมจังหวัดก็จะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี และจะได้ดำเนินการเยียมยาตามสิทธิ์ของผู้เสียหายในคดีอาญาต่อไป
ในขณะที่นางเอ แม่ของนางสาวบี กล่าวว่า ฟังรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดขอนแก่นแล้วก็มีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับความช่วยเหลือในเด้านต่างๆ เกิดความสบายใจ จึงแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนหาตัวคนที่ข่มขืนลูกสาวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย และถ้ามีงานให้ทำที่บ้านก็จะสบายใจกว่านี้ จะได้ไม่ต้องออกจากบ้าน ลูกสาวจะได้ปลอดภัย ไม่ถูกข่มขืนซ้ำอีก
ทางด้าน พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ จงกลรัตน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนั้น เมื่อมารดาและผู้เสียหายซึ่งเป็นคนป่วยจิตเวช เข้าแจ้งความร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ทำการสืบสวนสอบสวน หาคนที่ทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายตามความผิดในมาตรา 276 ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภรรยาของตนโดยขู่เข็ญประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้หญิงเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกสี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันถึงสี่หมื่นบาท
ภาพ/ข่าว : พรพรรณ เพ็ชรแสน สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวภาคอีสาน