ขณะที่กำลังจะครบรอบ 33 ปี เหตุการณ์กวาดล้างนักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตย ที่จัตุรัสเทียน อัน เหมิน เมื่่อวันที่ 4 มิถุนายน หรือที่รู้จักกันทั่วไปในจีนแผ่นดินใหญ่ว่า "เหตุการณ์ 4 มิถุนายน" รัฐบาลจีนก็ต้องเผชิญการประท้วงล่าสุดของนักศึกษาหลายร้อยคน ที่ชุมนุมกันอยู่ที่มหาวิทยาลัย 2 แห่ง เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจนโยบายที่เคร่งครัดในการจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และกฎหมาย (CUPL) กับมหาวิทยาลัยครูปักกิ่ง (เป่ยซือต้า) ได้ร่วมแสดงพลังต่อต้านมาตรการจำกัดการเคลื่อนไหว ที่พรรคคอมมิวนิสต์ (CCP) ใช้ผลักดันนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ทั่วประเทศ ซึ่งเซี่ยงไฮ้ถูกสั่งปิดเมืองยาวนานที่สุดหลายสัปดาห์ ท่ามกลางความวิตกว่าจะลามไปถึงปักกิ่ง หลังเขตไห่เตี้ยนของปักกิ่งประกาศล็อกดาวน์ ทำให้มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งต้องยกเลิกการเรียนการสอนตั้งแต่วันจันทร์
นักศึกษาของ CUPL หลายร้อยคน ได้ชุมนุมกันที่ด้านนอกอาคารหลัก ใช้ไฟฉายของโทรศัพท์มือถือในการส่องสว่าง ร้องตะโกนขอกลับบ้าน และคำตอบที่ชัดเจนและเป็นทางการเกี่ยวกับการสอบไฟนอล เช่นเดียวกับเป่ยซือต้า ที่นักศึกษาได้ร้องตะโกนด้วยคำขวัญโบราณในสมัยการลุกฮือครั้งแรกตั้งแต่ 209 ปี ก่อนคริสตกาล
คลิปวิดีโอการประท้วงถูกโพสต์และแชร์ในโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นฝูงชนชูโทรศัพท์และโบกไปมา นักศึกษาคนหนึ่งบอกว่า ทุกคนกังวลเรื่องนโยบายที่ทางมหาวิทยาลัยประกาศ และต้องการการตอบสนองอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเวลาและวิธีการสอบไฟนอล อย่างสร้างสรรค์ ไม่มีการตลบหลังหรือสอบสวน ส่วนเป่ยจือต้า มีการติดโปสเตอร์ด้วยว่า ฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัย ได้ให้คำมั่นด้วยวาจาว่าอย่างน้อยพวกเขาจะสามารถกลับบ้านได้ ตลอดระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 และสัญญาว่าจะไม่ตอบโต้นักเรียนที่เข้าร่วมการประท้วง
โพสต์ในเว่ยป๋อ ระบุว่า มีนักศึกษาราว 300 คน เข้าร่วมการประท้วงเมื่อวันอังคาร และหลังจากนั้น จำนวนก็เพิ่มเป็นราว 500 คน แหล่งข่าวระบุว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่พอใจที่ยกเลิกการเรียนแบบเผชิญหน้ากับอาจารย์ แต่ยังต้องอยู่ที่มหาวิทยาลัยเพื่อเรียนทางออนไลน์ ขณะที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ ในบางเขตอนุญาตให้กลับบ้านได้
การประท้วงครั้งนี้ มีขึ้นในขณะใกล้ถึงวันรำลึกครบรอบ 33 ปี เหตุการณ์นองเลือดที่จัตุรัสเทียน อัน เหมิน ที่การประท้วงระดับชาติ ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ได้รับแรงบันดาลใจจากการประท้วงในปักกิ่ง ก่อนถูกปราบปรามด้วยกำลังในวันที่ 4 มิถุนายน เมื่อรัฐบาลประกาศกฎอัยการศึก และส่งกองทัพเข้ายึดส่วนกลางของปักกิ่ง ทหารใช้ทั้งปืนและรถถังยิงใส่ผู้ประท้วง และผู้พยายามขัดขวางการรุกของกองทัพ เข้าสู่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ทำให้ถูกเรียกว่า การสังหารหมู่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ที่มีการประเมินว่า มีผู้เสียชีวิตตั้งแต่หลายร้อยถึงหลายพันคน และบาดเจ็บอีกหลายพันคน