แยกทางทนายเดชา! "มงคลกิตติ์" ยัน "คุณแม่" มอบทีมทนายพรรคดูแลคดีแตงโม

กลับมาเป็นประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อมี “บุคคลปริศนา” เข้ามาเคลื่อนไหวในเพจเฟซบุ๊กของ “แตงโม นิดา” นักแสดงสาวชื่อดัง ที่พลัดตกเรือจมน้ำเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ โดยมีการปล่อยภาพนิ่ง และคลิปเคลื่อนไหวแบบรัวๆ

โดยช่วงแรก “มือมืด” มีการใช้เพจ “Happy Melon Patcharaveerapong” ซึ่งเป็นเพจหลักของดาราสาวในการเคลื่อนไหว กระทั่งเพจถูกปิดลง จึงมีการเปิดเพจใหม่เป็น “Happy Melon official” แทน กระทั่งเริ่มมีกระแสว่า บุคคลที่โพสต์เพจของผู้ตาย คือ “บังแจ็ค” ที่มีข่าวฉาวมากมาย

จนนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ “แตงโม” แถลงข่าวชี้แจงว่า “คุณแม่” เป็นคนส่งโทรศัพท์มือถือผู้ตายให้ “บังแจ็ค” พร้อมข่าวลือว่ามีการรับเงินค่าตอบแทน 300,000 บาทนั้น

ล่าสุด “พี่เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยืนยันว่า “แม่แตงโม” เข้ามาปรึกษา โดยหลังจากนี้ คดีที่เกี่ยวข้องกับ “แตงโม” ทั้งหมดหลังจากนี้ จะมอบให้ทีมทนายของพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นผู้ดูแล โดยส่วนตัวได้ปรึกษากับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โดยจะมีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา

โดยคณะทำงานจะแบ่งเป็น 2 คดี คดีแรกเป็นเรื่องความสงสัยของคุณแม่ว่าเป็นการฆาตกรรม ที่จะมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และผู้เกี่ยวข้อง ตามกฎหมายอาญามาตรา 289 (7) ปัจจุบันมีการเตรียมทีมกฎหมายไว้ประมาณ 10 คน โดยมีคุณแม่เป็นผู้เสียหายคนเดียว ส่วนอีกคดีจะเกี่ยวกับทางแพ่ง เรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท ผู้เสียหายมีคุณแม่ และอยู่ระหว่างประสาน "เบิร์ด" แฟนหนุ่มผู้ตาย สามารถเป็นผู้เสียหายร่วมได้ 

"คณะทำงาน จะมีทั้งนักกฎหมาย ทนายความ อดีตอัยการ และอดีตผู้พิพากษา จะเข้ามาช่วยทำงานด้วย ส่วนเรื่องการดำเนินการ และค่าใช้จ่าย ทางพรรคจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบทั้งหมด หลังจากนี้ใครก็ตาม ที่จะทำให้ภาพการดำเนินคดีครั้งนี้ เกิดความเสียหาย และถ้าคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ ทางเราจะเอาผิดทั้งหมด โดยคดีนี้จะมีกลุ่ม 16 (กลุ่ม ส.ส.พรรคเล็ก) จะเป็นแบ็คอัพให้อีกชั้น ส่วนรูปต่างๆ ที่อยู่กับบังแจ็ค ต้องได้รับอนุญาตกับคุณแม่ก่อนจะเปิดเผยได้"

มีรายงานข่าวว่า ภายหลัง "ทนายเดชา" ออกมาแถลงข่าวเรื่องกรณี "คุณแม่" มอบโทรศัพท์มือถือให้ "บังแจ็ค" ทำให้เกิดกระแสตีกลับอย่างหนัก ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา "คุณแม่" เชื่อว่า คดีนี้เป็นฆาตกรรม ไม่ใช่อุบัติเหตุจากความประมาทตามที่ตำรวจสรุป จึงทำให้ความคิดเห็นไม่ตรงกัน จนตัดสินใจแยกทางกันในที่สุด