พญ.มาเรีย แวน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าฝ่ายโรคอุบัติใหม่ขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงเมื่อวันจันทร์เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในหลายประเทศขณะนี้ว่า เป็นการแพร่ระบาดที่ต้องมีการสัมผัสใกล้ชิดอย่างมาก ไม่เหมือนกับโควิด-19 และอาการไม่รุนแรง จึงเชื่อว่าเป็นสถานการณ์ที่ควบคุมได้
ขณะนี้พบผู้ป่วยยืนยันและผู้ต้องสงสัยติดเชื้อเกือบ 200 คน ใน 16 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทวีปยุโรป และยังพบในอเมริกาและออสเตรเลีย ทั้งที่ปกติแล้วโรคชนิดนี้มักพบการระบาดในแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก และคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นอีก แต่ความเสี่ยงแพร่กระจายสู่ประชาชนในวงกว้างยังอยู่ในระดับต่ำ
นอกจากนี้ โรซามุนด์ ลูอิส หัวหน้าแผนกโรคไข้ทรพิษของ WHO ระบุว่าโรคฝีดาษลิงเกิดจากการติดเชื้อของไวรัสที่มีจีโนมเป็น DNA ซึ่งมีอัตราการกลายพันธุ์ต่ำกว่าไวรัสที่มีจีโนมเป็น RNA และขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานบ่งชี้ว่ามีการกลายพันธุ์ในโรคฝีดาษลิงที่ระบาดในขณะนี้
ส่วน เดวิด เฮย์มานน์ อดีตหัวหน้าฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO กล่าวว่า ทฤษฎีที่อาจอธิบายการแพร่ระบาดของฝีดาษลิงในประเทศพัฒนาแล้วนอกทวีปแอฟริกา อาจมาจากพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มชายรักชายและกลุ่มชายไบเซ็กชวล ในงานเทศกาลสำคัญ 2 งาน ในสเปนและเบลเยียม แตกต่างจากการระบาดในทวีปแอฟริกาที่มักพบในสัตว์ และไม่เคยแพร่ออกนอกภูมิภาค
ขณะเดียวกัน ริชาร์ด พีบอดี หัวหน้าฝ่ายจุลินทรีย์ก่อโรคของ WHO ประจำยุโรป เปิดเผยว่า การระบาดของฝีดาษลิงยังไม่จำเป็นต้องมีการระดมฉีดวัคซีนป้องกันครั้งใหญ่ เพียงแค่รักษาสุขอนามัยที่ดีและมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ก็ช่วยควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว อีกทั้งขณะนี้มีวัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษหรือโรคฝีดาษ และยาต้านไวรัสในปริมาณจำกัดอย่างมาก
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงโดยตรง แต่วัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษมีประสิทธิภาพป้องกันได้ถึง 85% และขณะนี้สหรัฐฯ กำลังเตรียมนำวัคซีน Jynneos ที่ใช้รักษาโรคไข้ทรพิษมาใช้รักษาโรคฝีดาษลิง ส่วนเยอรมนีก็เตรียมพิจารณาเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันเช่นกัน และอังกฤษเสนอฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์