ฐานทัพสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นมีความเสี่ยงความปลอดภัยสูงมาก

นายเท็ดซูมิ ทาการะ สมาชิกสภาจังหวัดโอกินาว่าของญี่ปุ่น เป็นผู้ออกมาเปิดเผยโดยยืนยันสถิติที่จังหวัดโอกินาว่าบันทึกไว้ตลอดปี 2020 ซึ่งพบว่ามีอุบัติทางอากาศมากกว่า 800 ครั้ง และทหารอเมริกันในญี่ปุ่นทำผิดในคดีอาญามากกว่า 6 พันครั้ง และพื้นที่กว่า 39 ตารางกิโลเมตร ถูกไฟเผาเพราะการฝึกซ้อมของทหารสหรัฐฯ มีอุบัติเหตุจากการสัญจรมากกว่า 4 พันครั้ง มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บรวมกว่า 4 พันคน ทาการะกล่าวว่ากองทัพสหรัฐในญี่ปุ่นมักก่ออุบัติเหตุบ่อยครั้ง และดูเหมือนกองทัพสหรัฐฯ จะไม่ยอมแสดงความรับผิดชอบ ได้แต่แถลงว่าจะศึกษาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น  แต่แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะไม่มีระบบลงโทษหรือแก้ไขให้ถูกต้อง  เหตุผลหลักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้เนื่องจากทหารอเมริกันเพลิดเพลินกับอภิสิทธิ์ที่ได้ในญี่ปุ่น

สหรัฐฯ กับญี่ปุ่นมีข้อตกลงร่วมกันที่เรียกว่า  Status of Forces Agreement หรือ SOFA ซึ่้งมีขึ้นในปี 1960 โดยทหารสหรัฐฯ และครอบครัว ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นไม่ต้องปฏิบัติตามกฏหมายของญี่ปุ่นเกี่ยวกับพาสปอร์ตและวีซ่า  นอกจากนั้นยังมีบทบัญญัติให้ทหารสหรัฐอยู่นอกเหนืออำนาจของศาลญี่ปุ่น ว่าด้วยคดีอาญาหากกระทำการในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเท่ากับให้ความคุ้มครองการกระทำใด ๆ ก็ตามของทหารสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นนั่นเอง และในทางปฏิบัติญี่ปุ่นก็มักจะให้อำนาจทางการศาลแก่สหรัฐฯ เพื่อแสดงถึงสันถวะไมตรี  ทำให้ทหารสหรัฐฯ ไม่ถูกตัดสินลงโทษใด ๆ หลังจากก่ออุบัติเหตุ

นอกจากเรื่องอุบัติเหตุและความผิดทางอาญาแล้วยังมีภาระด้านงบกลาโหมหนักมาก ซึ่งตามข้อตกลงร่วมแชร์ค่าใช้จ่ายฉบับใหม่ ที่ลงนามระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และญี่ปุ่น กำหนดให้ญี่ปุ่นต้องรับภาระค่าใช้จ่ายของทหารสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 264,000 ล้านบาท ตลอด 5 ปี นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 เป็นต้นไป หรือมากกว่างบในปี 2021 ถึง 2,541 ล้านบาท

ทาการะ สมาชิกสภาจังหวัดโอกินาว่า กล่าวว่าค่าใช้จ่ายทางทหารถือเป็นภาระหนักของญี่ปุ่น และอาจทำให้เกิดวิกฤตความมั่นใจในประชาคมระหว่างประเทศด้วย เพราะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องในการรับมือกับสถานการณ์ระหว่างประเทศด้วยการเพิ่มงบกลาโหม ซึ่งญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ทำสงครามรุกราน ดังนั้นจึงควรกลับมาดูตัวเองและขอโทษต่อไป และต้องทำให้ประจักษ์ว่าจะไม่เพิ่มงบกลาโหมมากเกินไป