svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

หน้าชา "ชูวิทย์" ยก 8 นโยบาย แปลกแต่จริง ที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ไม่เคยพูดถึง

15 พฤษภาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

งานนี้มีหน้าชา "ชูวิทย์" ทำการบ้านมากฝาก ก่อนลงคะแนนอาทิตย์หน้า ยก 8 นโยบาย กทม. แปลกแต่จริง ที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ไม่เคยพูดถึง

ใกล้ถึงโค้งสุดท้ายแล้ว สำหรับการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 พ.ค. นี้ ซึ่งจนถึงขณะนี้บรรดาผู้สมัครทั้งหลาย ต่างพาขับเคี่ยวกันลงพื้นที่หาเสียง รวมถึงเดินสายดีเบตโชว์วิสัยทัศน์กันตามเวทีต่าง ๆ เพื่อ "ขายของ" ดึงคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน ซึ่งผู้สมัครฯ แต่ละคนต่างมีไม้เด็ดคือเรื่องของชุดนโยบาย ที่อวดอ้างว่าจะนำมาปฏิบัติหาก "เข้าวิน" ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. 

 

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่เชี่ยวชาญการเมืองอย่าง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วน ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถึงข้อสังเกตเกี่ยวกับนโยบายของบรรดาผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯ กทม. โดยระบุว่า นโยบาย กทม. แปลกแต่จริง ที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ไม่เคยพูดถึง 

 

 

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.
 

หากคนกรุงเทพฯ จะตัดสินใจเลือกใคร ก็แล้วแต่เถอะครับ แต่ลองดูข้อมูลของผมก่อนจะตัดสินใจ

.
“เรื่องแปลกแต่จริงของ กทม.“

.
อันดับแรก ให้รถบีอาร์ทีวิ่งรับคนไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส ยกเลนรถหายไปหนึ่งเลนให้บีอาร์ที

.
ส่วนรถยนต์วิ่งไม่ได้ บางคันหลงเข้าไปในเลนรถบีอาร์ทีเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

.
มีคนโดยสารน้อยมาก แต่ประโยชน์ตกกับบีทีเอสเต็มๆ

.
ใครคุ้ม?

.
อันดับสอง กทม. ให้บีทีเอสประมูลวิ่งรถไฟฟ้า บริการคนกรุงเทพฯ แต่ไม่เคยแบ่งให้ กทม. คือค่าโฆษณาทั้งบนสถานี เสาตอม่อ และพื้นที่ในรถไฟฟ้า

.
บีทีเอสทำกำไรเพิ่มขึ้นมหาศาล

.
ใครคุ้ม?

.
อันดับสาม ภาษีโรงเรือนบ้านหลังแรก ไม่เกิน 50 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี แต่หากคนซื้อบ้านหลังเล็ก 3 ล้าน มาแล้วหลังแรก จะมีบ้านอีกสักหลังให้ลูกหลานอีก 3 ล้าน เป็นหลังที่สอง ต้องเสียภาษี

.
แบบนี้เอื้อเศรษฐีชัดๆ

.
ใครคุ้ม?

.
อันดับสี่ ขยะ คือขุมทรัพย์มหาศาล มีทั้งขยะเปียก (เศษอาหาร) และขยะแห้ง ขายได้ทุกอย่าง

.
แต่ที่แปลกคือ บริษัทประมูลที่ดินฝังกลบขยะ ให้ กทม. จ่ายเงินค่าที่ แต่เมื่อขยะเต็มที่ดินแล้ว ที่ดินกลายเป็นของบริษัทขยะ

.
ต่อมาราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น บริษัทเอกชนได้ประโยชน์ไปเต็มๆ

.
ใครคุ้ม?
 

 

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.

อันดับห้า ซอยเล็ก ถนนแคบ ท่อระบายน้ำเล็ก จู่ๆ คอนโดยักษ์มาเปิด จากคนที่มีบ้านพักอาศัยเหมาะสมกับสาธารณูปโภคแค่นี้แต่ต้น กลับมาเจอคอนโดระดับพันห้อง ซอยรถติด น้ำไฟไม่พอ ท่อน้ำระบายเล็ก ไม่รู้มาได้ไง

.
คนในซอยงง จากอยู่กัน 100 หลังกลายเป็น สองพันหลังในพริบตา

.
ใครคุ้ม?

.
อันดับหก ห้ามค้าขายริมถนน คนจนไม่มีสิทธิ์ แต่เซเว่นเปิดได้ รถส่งของจอดหน้าร้าน ปิดทาง ซอยแคบหายไป 1 เลน ไม่มีใครกล้าว่าหรือตั้งกฎห้ามเปิด

.
ใครคุ้ม?

.
อันดับเจ็ด โรงแรมห้าดาวคืนละเป็นหมื่น แต่เกสต์เฮาส์ราคา คืนละ 500 เก็บภาษีเท่ากัน เพราะเอา “ตารางเมตร” วัดเป็นเกณฑ์ ไม่เอารายได้เป็นเกณฑ์

.
ใครคุ้ม ?

.
อันดับสุดท้าย กทม. ไม่ยอมทำสัญญาเอง หากมีธุรกิจค้าขาย การประมูลยกให้ บ. กรุงเทพธนาคม ทำ แต่กรุงเทพธนาคมก็ไม่ทำเองอีก ดันยกให้คนอื่นทำหมดทุกเรื่อง และทำตัวเองเป็นเพียง “โบรคเกอร์” แทน

.
ไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทนี้เลย ว่าทำไมกำไรได้แค่ 50 ล้านต่อปี ? ทั้งที่บริษัทมีมูลค่าถึง 200,000 ล้าน

.
หลายๆ เรื่องที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ แต่ละคนไม่เคยพูดถึง เพราะมัวแต่หาเสียง สร้างฝัน ขายฝัน สนุกสนานเหมือนในอดีต แสดงวิสัยทัศน์ลวกๆ แบบขอไปที

.
จะเลือกใคร ก็เลือกไปเถอะครับ แต่ช่วยตอบคำถามเรื่องแปลกๆ ฝากไว้ถึงผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที

.
ผมทำการบ้านมาฝากก่อนลงคะแนนอาทิตย์หน้านี้ 

 

 

บรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.

logoline