วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ร.ต.ท.ฉัตรราชย์ สังข์พระกร พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ หรือ อัยการดาว อัยการจังหวัดนนทบุรี ที่ดูคดีการเสียชีวิตของดาราสาว "แตงโม นิดา" ให้เดินทางมาตรวจสอบเอกสารปริศนา ที่ถูกส่งมาถึงบ้านพักส่วนตัวย่านเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง พบ น.ส.สุภาภรณ์ ยืนรออยู่พร้อมเอกสารปริศนาดังกล่าว ที่ถูกนำส่งไว้ในตู้รับจดหมายหน้าบ้านเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (14 พ.ค.) จากการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวเป็นกระดาษเอ 4 จำนวน 22 หน้า จ่าใบแปะหน้าถึง น.ส.สุภาภรณ์ เป็นเอกสารในลักษณะคำฟ้องของศาลยุติธรรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อหาประมาณว่า คล้ายเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์บนเรือสปีดโบ๊ทที่ "แตงโม นิดา" จมน้ำเสียชีวิต
โดยบรรยายรายละเอียดในเรื่องราวทุกขั้นตอนราวกับเป็นบุคคลที่ 7 ในเหตุการณ์ แต่ลักษณะคำที่เขียนไม่ถูกหลักของนักกฎหมาย ไม่ใช่ภาษาศัพท์ที่ผู้ชำนาญการด้านกฏหมายใช้กัน และเอกสารสำเนาดังกล่าวก็ใช้ชื่อเพียงอักษรตัวเดียวแทนชื่อจริง โดยใช้ตัวอักษรแค่ อ. ตัวเดียวก็ถือว่าผิดปกติแล้ว และสัญลักษณ์ตรายางที่ใช้ก็ไม่ถูกต้อง
น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ช่วงเย็นลูกชายตนได้เปิดตู้รับจดหมายและนำเอกสารดังกล่าว มาให้ เพราะจ่าหน้าระบุถึงตน ทีแรกก็เข้าใจว่าเป็นโบรชัวร์แนะนำสินค้า จนกระทั่งนำมาเปิดอ่านก็พบว่า เป็นเอกสารคล้ายคำฟ้องขอศาลยุติธรรมแห่งหนึ่ง บรรยายเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเรือสปีดโบ๊ทในคดีที่ประชาชนกำลังให้ความสนใจอยู่ขณะนี้ โดยสามารถเล่าเหตุการณ์ได้ละเอียดราวกับเป็นบุคคลที่ 7 บนเรือหรือไม่ก็แม่ย่านางของเรือเลยทีเดียว เป็นการเล่าแบบเหนือธรรมชาติเกินความเป็นจริงอีกต่างหาก
ทำให้ตนไม่แน่ใจว่า คนที่ส่งเอกสารดังกล่าวมาต้องการอะไร เท่าที่อ่านดูเหมือนต้องการชี้นำคดีที่อัยการกำลังรับผิดชอบอยู่ในตอนนี้ ซึ่งตนเคยให้ข่าวไปแล้วว่า ถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรให้ไปยื่นหรือส่งเอกสารไปที่สำนักงานอัยการจังหวัด แต่การที่นำเอกสารมาส่งตรงถึงที่บ้านพักอัยการส่วนตัวแบบนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน
น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยเปิดเผยที่อยู่บ้านพักใด ๆ ในพื้นที่สาธารณะมาก่อน เพราะตนถือว่า นอกเวลางานคือประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต้องการพื้นที่ความเป็นส่วนตัว การ กระทำในลักษณะนี้จึงเข้าข่ายปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม เนื่องจากในเอกสารนั้นมีตราครุฑที่ใช้ในทางราชการร่วมอยู่ด้วย ตนจึงต้องแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่ส่งเอกสารดังกล่าวมาที่บ้านพัก และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบด้วยว่า บุคคลที่ส่งเอกสารปลอมนี้มาให้ตน ไปนำข้อมูลที่อยู่บ้านพักตนมาได้อย่างไร
น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า การใช้เอกสารปลอมส่งมาเพื่อต้องการชี้นำคดี นอกจากจะล้ำเส้นการทำงานในหน้าที่ของตนแล้ว ยังเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอีกด้วย คนดี ๆ เขาไม่ทำแบบนี้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับคดีที่ทางอัยการจังหวัดรับผิดชอบอยู่ ทุกอย่างยืนอยู่บนหลักเกณฑ์และกรอบที่กำหนดไว้