การเลือกตั้งฟิลิปปินส์ในวันนนี้จะเป็นการตัดสินว่า ใครจะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนใหม่แทน โรดริโก ดูแตร์เต ซึ่งตัวเต็งของผู้ชิงตำแหน่งครั้งนี้คือเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือบองบอง วัย 64 ปี ได้เดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่บ้านเกิดในจังหวัดอีโลโคส นอร์เต ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ (9 พฤษภาคม) โดยผลโพลล์ทุกสำนักชี้ว่าบองบองมีคะแนนนิยมสูงถึง 57% และหากผลการเลือกตั้งเป็นไปตามโพลล์ เขาก็น่าที่จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากพรรคเดียวได้ โดยไม่ต้องไปรวมกับพรรคอื่นในการจัดตั้งรัฐบาล
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวฟิลิปปินส์ 67 ล้านคน เริ่มทยอยออกไปใช้สิทธิ์กันอย่างคึกคัก ตามโรงเรียนและหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ ที่นอกจากจะเป็นการปรับโฉมทางการเมืองที่จะส่งต่อไปยังอนาคตข้างหน้าอีก 6 ปีแล้ว ยังเป็นระยะเวลาเกือบ 60 ปี ที่คนในตระกูลมาร์กอสจะกลับมาครองทำเนียบมาลากันญังอีกด้วย หลังจากที่พ่อของบองบองถูกโค่นอำนาจเมื่อปี 1986
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญกับผู้พิการทางสายตาด้วย ที่จะลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้งที่เป็นอักษรเบล โดยที่คูหาจะมีเจ้าหน้าที่พาไปลงทะเบียนพิมพ์ลายนิ้่วมือและไปนั่งในหน่วยเลือกตั้ง แต่ตอนลงคะแนนเจ้าหน้าที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพื่อให้ผู้ใช้สิทธิ์มีความเป็นส่วนตัวและตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะลงคะแนนให้ใคร
แต่ก็มีบางพื้นที่ที่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นที่เมืองบินิดายัน จังหวัดลาเนาเดลซูร์ มีเหตุการโต้เถียงจนเกิดการทะเลาะวิวาทที่หน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่ง ถึงขั้นใช้ไม้ทุบตีร่างกายกัน และทำให้บัตรเลือกตั้งและเครื่องลงคะแนนได้รับความเสียหาย เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
ส่วนอีกพื้นที่หนึ่งมีเหตุการณ์ที่ผู้ต้องสงสัย 2 คน เป็นชายและหญิงถูกตำรวจจับ เพราะต้องสงสัยว่าเป็นหัวคะแนนที่ไปซื้อเสียงให้นักการเมือง โดยตำรวจพบหลักฐานเป็นเงินสดแบ่งใส่ซองไว้เรียบร้อย กับเอกสารที่เชื่อว่าเอาไว้ให้ผู้ที่ขายเสียงลงชื่อรับเงิน ซึ่งหลังถูกจับผู้ต้องสงสัยคนที่เป็นผู้หญิงถึงกับเป็นลมเลยทีเดียว
นอกจากนี้ก็มีการเผยแพร่ภาพนิ่งที่ถูกระบุว่า เป็นเงินซื้อเสียงของฝั่งบองบอง เพราะทีมงานที่ถูกจับภาพได้สวมเสื้อทีมหาเสียงของบอบองโดดเด่นชัดเจน