svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิสั่งรื้อสำนักฤาษีลัทธิประหลาด ตรวจสอบพบ 11 ศพ

09 พฤษภาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิสั่งเร่งรื้อสำนักฤาษีลัทธิประหลาด พร้อมตรวจสอบพบ 11 ศพ เน่าคาสำนัก ขณะที่เจ้าสำนักถูกคุมขังอยู่ สภ.คอนสาร โดยมีญาติและสาวก 10 คน รอหน้าโรงพัก

9 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมสื่อมวลชนหลายสำนัก  เข้าตรวจสอบสำนัก(ฤาษี)ปฏิบัติธรรม ซึ่งตั้งอยู่พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการกักขังผู้มาปฏิบัติธรรมและรักษาโรคโดยวิธีการแปลกประหลาดไม่ถูกสุขลักษณะ บริเวณดังกล่าวเป็นกระท่อมชั้นเดียวมุงด้วยใบหญ้าคา จากการตรวจสอบเมื่อวานนี้พบว่า มีชายหญิงตั้งแต่วัยกลางคนไปถึงผู้สูงอายุจำนวนมากกว่า 30 คน นั่งรายล้อมชายชราผมยาว ไม่สวมเสื้อ โดยบรรดาผู้มาปฏิบัติธรรมพากันเรียกว่า “พระบิดา” ซึ่งประชาชนที่มาทุกคนจะไม่สวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่อย่างใด พร้อมบอกว่าหากอยู่ในสำนักภายใต้การปกครองของพระบิดาแห่งนี้แล้ว โรคโควิด-19 จะไม่สามารถทำอันตรายพวกเขาได้
 

ผู้ร้องให้ตรวจสอบคือ น.ส.เจนจิรา อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น ได้ร้องเรียนไปที่ "หมอปลา" ให้ช่วยเหลือ บอกว่ามารดาตนเอง ชื่อนางน้อย อายุ 80 ปี หลานสะใภ้ได้ชวนไปปฏิบัติธรรมที่อาศรมแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เมื่อปีที่ผ่านมา หลังจากเข้าไปปฏิบัติธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ปรากฏว่ามารดามีพฤติการณ์แปลกประหลาดคล้ายจะเชื่อว่า อาศรมแห่งนี้มีเจ้าสำนักแต่งตัวคล้ายฤาษี ชื่อนายทวี หรือสาวกเรียกว่า พระบิดา อ้างว่าเป็นพระบิดาของทุกศาสนามีความสามารถในการรักษาโรคภัย เป็นผู้สร้างโลกและยังสอนให้ลูกศิษย์ที่อาศัยในอาศรมแห่งนี้กว่า 30 ชีวิตปฏิบัติกิจแปลกประหลาด เช่น กินคราบเหงื่อไคล ขี้ไคล ปัสสาวะ อุจจาระ น้ำลาย เสมหะและก้นบุหรี่ของพระบิดา โดยทุกคนจะทำตามทั้งหมดเพราะเชื่อว่าเป็นโอสถบริสุทธิ์วิเศษของพระบิดา สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ รวมถึงโรคโควิด-19 นอกจากนี้ลูกศิษย์ยังนำดินโคลน อุจจาระและปัสสาวะของพระบิดาที่ได้ถ่ายทิ้งไว้มาพอกตัว เชื่อว่าสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้เช่นกัน โดยไม่ต้องไปหาหมอ

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิสั่งรื้อสำนักฤาษีลัทธิประหลาด ตรวจสอบพบ 11 ศพ
 

น.ส.เจนจิรา แจ้งว่า หลังจากที่แม่เข้าไปปฏิบัติธรรมในอาศรมดังกล่าว แม่ถูกห้ามไม่ให้กลับบ้าน ตนเองจึงเดินทางไปเยี่ยมแม่ พอไปถึงมีลูกศิษย์สั่งให้ก้มกราบพระบิดาด้วยการเอามือทั้ง 2 ข้างวางซ้อนกันแล้วก้มหัวลงกับพื้นจนครบ 9 ครั้ง ห้ามมองหน้าพระบิดา ผู้หญิงที่เข้าไปทุกคนต้องสวมผ้าถุงยาวคลุมเข่า ผู้ชายต้องนุ่งกางเกงขายาวและต้องถอดรองเท้าเพื่อให้เกียรติสถานที่ แต่สิ่งที่ทำให้ตนช็อกสุดขีดคือ เห็นกับตาว่าแม่ของตนที่อาศัยในนั้นมา 1 ปี กำลังเอาเสมหะหรือเสลดของพระบิดามาล้างหน้าก่อนจะเอามือไปลอกคราบขี้ไคลมารับประทาน นอกจากนี้ในสำนักดังกล่าว และยังมีศพที่ถูกเก็บไว้ในโลงปล่อยให้เน่าเปื่อยส่งกลิ่นไปทั่วอีกจำนวน 11 ศพ เพื่อรอทำพิธีให้ขึ้นสวรรค์ ซึ่งเป็นศพผู้มาปฏิบัติธรรมแล้วเสียชีวิต และสาวกอ้างว่าเป็นคำสั่งของพระบิดาที่ไม่ยอมให้เอาศพส่งคืนญาติ เพราะถือว่าเมื่อเข้ามาถือศีลแล้วเท่ากับเป็นการถวายตัวต่อพระบิดา ตายไปแล้วห้ามนำศพกลับบ้าน มารดาตนก็ยินยอมถวายตัวให้กับพระบิดาสั่งเสียว่าหากตายไปแล้วไม่ต้องเอาศพออกมากลับบ้านเพื่อทำพิธีตามศาสนาแต่อย่างใด

 

จนต่อมาวานนี้( 8 พ.ค.65) นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร นำกำลังตำรวจ สภ.คอนสาร เจ้าหน้าที่ อส.เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้พูดคุยกับพระบิดาพร้อมให้คำแนะนำเรื่องสุขอนามัยของคนในสำนักก่อนที่จะตักเตือนคนที่มาปฏิบัติธรรมว่าอย่างมงาย ขณะเดียวกันทางหมอปลาและทีมงานก็ได้ร่วมเดินทางไปยังสำนักดังกล่าวด้วย ทำให้บรรดาลูกศิษย์ต่างแตกตื่นและตกใจที่หมอปลานำสื่อมวลชนจำนวนมากบุกเข้ามาในสำนักในครั้งนี้ด้วย 

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิสั่งรื้อสำนักฤาษีลัทธิประหลาด ตรวจสอบพบ 11 ศพ

จากนั้นมีหญิงสาวรายหนึ่งเข้ามากอดแขนและดึงหมอปลาไปหาพระบิดา บอกว่าไม่ต้องแวะที่ไหนเพราะบุคคลที่จะเข้ามาในสำนักทุกคนจะต้องมารายงานตัวให้พระบิดารับทราบ จากนั้นหมอปลาก็ได้สอบถามชายที่อ้างตัวเป็นพระบิดา ทราบชื่อว่า นายทวี หนันลา หรือ โจเซฟ  อายุ 74 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 1 ตำบลโนนสะอาด อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น อ้างตัวเป็นพระเมตไตรยะ หมอปลาและผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายทวี ว่าทำไมถึงสั่งสอนลูกศิษย์ให้เชื่อเรื่องงมงายแบบนี้และถามในหน้าที่คือพระเจ้าผู้สร้างโลกจริงหรือไม่ นายทวีปฏิเสธบอกไม่ได้สอนลูกศิษย์เพียงแค่ลูกศิษย์เชื่อกันเองแล้วตนไม่ได้บังคับให้กินอึหรือกินฉี่แต่อย่างใดด้วย

 

ระหว่างนั้นได้มีลูกศิษย์หญิงสูงวัย 2 คนก้มดื่มฉี่ที่พระบิดาฉี่ไว้ในหลุม และบอกว่านี่คือพระโอสถชั้นดี ที่บรรดาลูกศิษย์ที่เห็นนี้ได้กินกันหมดแล้ว พร้อมบอกว่าคนที่ได้กลิ่นเหม็นและอาเจียนคือคนที่จิตใจไม่บริสุทธิ์ นอกจากนี้พระบิดามักจะให้ลูกศิษย์กินขี้ไคลตัวเอง อ้างว่าทุกสิ่งที่ขับออกจากร่างกายพระบิดาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หากใครได้กินแล้วจะหายจากโรคร้ายได้หมด จากนั้นนายทวี(ฤาษี)ที่ได้ใช้ฝ่ามือถูขี้ไคลส่งให้แก่ลูกศิษย์หญิงคนหนึ่งหยิบก้อนขี้ไคลใส่ปากทันที พร้อมบอกว่าก้อนขี้ไคลคือยารักษาโรคชั้นดีกินแล้วร่างกายแข็งแรง 

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิสั่งรื้อสำนักฤาษีลัทธิประหลาด ตรวจสอบพบ 11 ศพ

จากการตรวจสอบด้านหลังเตียงนอนของพระบิดายังพบโลงศพเขียนชื่อว่า นางวัล ทราบว่าโลงศพดังกล่าวเป็นศพของมารดาของเจ้าสำนักแห่งนี้เอง ส่วนด้านนอกเพิงพักยังพบโลงศพขนาดใหญ่จำนวน 3 โลง และโลงศพของทารก 1 โลง ลักษณะของโลงศพทุกโลงจะถูกเจาะระบายน้ำเหลืองออกมา 

 

ขณะที่นายมานะ อายุ 45 ปี หนึ่งในผู้ปฏิบัติธรรมเปิดเผยว่า ในสำนักแห่งนี้ไม่ได้มีเพียง 5 ศพในจุดนี้เท่านั้น แต่ยังมีอีก 6 ศพ ที่ถูกเก็บบรรจุไว้ตามจุดต่างๆ ทั้งในกระท่อมและมีการฝังลอยให้โลงศพอยู่บนพื้นดิน รวมทั้งสิ้นแล้วมีทั้งหมด 11 ศพ ทุกศพที่นำมาตั้งไว้ที่แห่งนี้มีญาติและญาติได้ยินยอมพร้อมกับมีใบแจ้งตาย ถูกต้องตามกฎหมายทุกศพ ญาติของบางศพได้มาปฏิบัติธรรมอยู่ที่สถานที่แห่งนี้ ส่วนการบรรจุศพจะเป็นไปตามกระบวนการของทีมแพทย์ใส่ถุงซิปแบบมิดชิดแต่ไม่ได้ฉีดฟอร์มาลีนกันศพเน่า ซึ่งศพก็จะส่งกลิ่นเหม็นบ้าง แต่ยอมรับว่ามีน้ำเหลืองไหลออกมาบ้างแต่ไม่มาก

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิสั่งรื้อสำนักฤาษีลัทธิประหลาด ตรวจสอบพบ 11 ศพ

ล่าสุด นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า สถานที่แห่งนี้เปิดเป็นสำนักลักษณะเป็นลัทธิความเชื่อในกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง  รักษาโรคตามคำกล่าวอ้าง เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มจากมีประชาชนร้องเรียนไปยังหมอปลาเพื่อร้องขอความช่วยเหลือว่ามีญาติเข้าไปรักษาในสำนักแห่งนี้แล้วหายตัวไป อยากให้มาช่วยเหลือนำตัวกลับออกมากลับบ้าน เบื้องต้นได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ทั้งฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ หลังพบคนในสำนักไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย พร้อมพิจารณาข้อกฎหมายอื่นๆ เพื่ออายัดศพทั้ง 11 ศพ ส่งไปตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ถูกต้องและพิจารณาในข้อกฎหมายบุกรุกพื้นที่สาธารณประโยชน์ ที่ทาง อบต.พื้นที่ และนายอำเภอคอนสาร จะดำเนินการแจ้งให้ผู้บุกรุกเร่งรื้อถอนโดยเร็ว หากไม่รื้อเองทางเจ้าหน้าที่ก็มีขั้นตอนที่จะเข้ารื้อให้เอง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ซึ่งในส่วนตัวแล้วไม่เคยทราบมาก่อนว่าในพื้นที่แห่งนี้มีสำนักปฏิบัติธรรมประหลาดแบบนี้  เพราะตนเพิ่งย้ายมารับตำแหน่งผู้ว่าฯ ที่ จ.ชัยภูมิ ได้ไม่นาน และจะต้องดำเนินการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับพระบิดา หากมีมูลความผิดก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายที่พบทั้งหมดอีกเพิ่มเติมต่อไป

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิสั่งรื้อสำนักฤาษีลัทธิประหลาด ตรวจสอบพบ 11 ศพ

ขณะที่บรรยากาศการควบคุมตัวเจ้าสำนักฤาษีลัทธิเพี้ยนครั้งนี้ ที่ สภ.คอนสาร ก็ยังมีญาติลูกศิษย์สาวกนับสิบคน เดินทางไปรอเฝ้ารออยู่หน้าโรงพัก ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกโรงพัก สภ.คอนสาร เป็นการเข้มงวดไว้ก่อนในช่วงนี้ด้วย ซึ่งยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด 

ภาพ/ข่าว - สุทธิพงศ์  เสฎฐรังสี สำนักข่าวเนชั่น จ.ชัยภูมิ
 

logoline