ปชช. ลุยเข้าปลูกป่าบ้านป่าแหว่งกลาง มิ.ย. นี้ หาช่องรื้อบ้านไม่รอร้าง 10 ปี

ความคืบหน้าปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ของภาคประชาชน จากกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 นำพื้นที่ไปสร้างบ้านพักของข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 หรือหมู่บ้านป่าแหว่ง ซึ่งเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่าน กรมธนารักษ์เจ้าของพื้นที่ เพิ่งได้รับคืนพื้นที่บ้านพักป่าแหว่งจำนวน 45 หลัง จาก ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ขณะที่เครือข่ายขอคืนป่าดอยสุเทพ เตรียมเข้าฟื้นฟูพื้นที่ พร้อมขีดเส้นขอคืนพื้นที่คอนโดมิเนียม 9 หลัง ในวันที่ 7 ก.ย.65 (อ่านข่าว) 

ล่าสุดวันนี้ (6 พ.ค.) นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายของคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางกรมธนารักษ์ได้รับมอบพื้นที่บ้านพักข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 จำนวน 45 หลัง รวมพื้นที่ประมาณ 85 ไร่ เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะนี้ทางเครือข่ายของคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพกำลังหารือกับสมาชิก เพื่อดำเนินการจัดกิจกรรมฟื้นฟูพื้นที่ป่าดอยสุเทพ 

โดยคาดว่าภายในกลางเดือนมิถุนายนนี้ จะเข้าดำเนินการปลูกป่าให้เต็มพื้นที่บริเวณบ้านพักทั้ง 45 หลัง ส่วนบ้านพักยังไม่สามารถรื้อถอนได้ เนื่องจากตามระเบียบทางราชการต้องปล่อยทิ้งร้าง 10 ปี จึงสามารถดำเนินการรื้อถอนได้ อย่างไรก็ตามเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ จะพยายามหาช่องทางทางกฎหมาย เพื่อนำมาบังคับใช้ให้รื้อถอนบ้านพักทั้งหมดนี้ต่อไป 

ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังสำนักงานโครงการชลประทานเชียงใหม่ เพื่อให้ช่วยปรับพื้นที่ถนนบริเวณอ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง เพื่อใช้เป็นเส้นทางที่จะให้เครือข่ายฯ และชาวเชียงใหม่ เดินทางเข้าไปฟื้นฟูพื้นที่บริเวณบ้านพัก 45 หลัง โดยไม่ต้องผ่านทางด้านหน้าศาลอุทธรณ์ภาค 5 ขณะเดียวกัน จะต้องทำประตูกั้นแบ่งพื้นที่ระหว่างศาลให้ชัดเจน แต่ทั้งนี้ทางธนารักษ์พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ขอเวลาในการย้ายครุภัณฑ์ออกจากบ้านพักจำนวน 45 หลัง ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ทางเครือข่ายจึงจะดำเนินการทำประตูแบ่งเขตให้ชัดเจน 

พร้อมกันนั้น ได้เตรียมเคลื่อนไหวขอคืนพื้นที่อาคารชุด 9 หลัง ที่มีพื้นที่อยู่ในเขตป่าดอยสุเทพ พื้นที่รวมประมาณ 27 ไร่ หลังจากที่มติคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาบ้านพักตุลาการจังหวัดเชียงใหม่ ให้ข้าราชการเข้าอยู่เป็นการชั่วคราว เพื่อรอให้บ้านพักข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่จังหวัดเชียงรายก่อสร้างแล้วเสร็จ ที่ตามกำหนดจะต้องแล้วเสร็จและส่งมอบงานในวันที่ 7 ก.ย. นี้ ซึ่งหากถึงเวลาที่กำหนดไว้แล้ว ยังไม่มีการย้ายออก ทางเครือข่ายจะดำเนินการทวงคืนพื้นที่ต่อไป ทราบว่าขณะนี้มีครอบครัวข้าราชการอาศัยอยู่ในบริเวณอาคารชุด 9 หลัง จำนวน 30 ครอบครัว