เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 เมษายน 2565 ที่บ้านพักข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ , นายกรจักร ชูทิพย์ ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ , นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมด้วยสมาชิกเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เดินทางเข้ามาตรวจบ้านพักข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 จำนวน 45 หลังพร้อมรับมอบคืน รวมทั้งมีการลงนามรับมอบพื้นที่คืนจากศาลอุทธรณ์ภาค 5 หลังจากที่ชาวเชียงใหม่ได้เดินหน้าเรียกร้องขอให้รื้อถอนบ้านพักข้าราชการศาลมานานกว่า 4 ปี
นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า จากประเด็นที่มีร้องขอให้มีการรื้อถอนบ้านพักข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่กรมธนารักษ์ดูแลอยู่นั้น ได้เดินหน้าแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ได้ข้อยุติว่า ทางสำนักงานศาลยุติธรรม โดยศาลอุทธรณ์ภาค 5 จะส่งมอบคืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ตามขั้นตอนระเบียบของทางราชการ
หลังจากนั้นกรมธนารักษ์จะให้หน่วยงานของทหาร ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ทางกองทัพบกเคยเป็นผู้ดูแลมาก่อนหน้านี้ โดยได้ยื่นขอใช้พื้นที่จากกรมธนารักษ์มาก่อน โดยทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้ขอใช้เพื่อก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 และ บ้านพักข้าราชการ โดยได้รับความยินยอมจากกองทัพบก กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการอนุญาตตามขั้นตอนกฎหมายที่ราชพัสดุ
อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเป็นประเด็นข้อพิพาทขึ้นมา โดยประชาชนชาวเชียงใหม่ต้องการที่จะขอพื้นที่คืนเพื่อให้ป่ากลับมามีสภาพสมบูรณ์ดังเดิม ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง จนได้ข้อยุติโดยสำนักงานศาลยุติธรรมโดยศาลอุทธรณ์ภาค 5 จะส่งมอบพื้นที่คืนให้กับกรมธนารักษ์ โดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ เป็นผู้รับมอบ หลังจากนั้นเมื่อได้รับมอบแล้ว จะดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของชาวเชียงใหม่ โดยจะมีการบูรณะแก้ไขต่อไป โดยมีคณะกรรมการระดับจังหวัดเป็นผู้ดูแลอยู่
สำหรับครุภัณฑ์ จำนวน 1,866 รายการเบื้องต้น จะมอบให้ทาง มณฑลทหารบกที่ 33 เป็นผู้ดำเนินการ หลังจากนั้นจะพิจารณาว่า หน่วนงานไหนสามารถนำครุภัณฑ์ไปใช้ประโยชน์ได้ ก็จะดำเนินการส่งมอบให้ต่อไป ส่วนไหนที่ไม่มีความจำเป็นที่หน่วยงานราชการจะนำไปใช้ประโยชน์ได้ ก็จะทำการจำหน่ายออกไปตามระเบียบราชการ ส่วนตัวอาคารบ้านพักทั้ง 45 หลัง ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการระดับจังหวัดที่ได้รับแต่งตั้งขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของชาวเชียงใหม่โดยจะพยายามทำให้เกิดความสมประโยชน์กับทุกฝ่าย
ส่วนพื้นที่อาคารคอนโดมิเนียม 9 หลัง ที่จะต้องมีการคืนพื้นที่ด้วยนั้น จะต้องนำมาพิจารณาดำเนินการอีกครั้งในลำดับต่อไป ตอนนี้รับคืนพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 85 ไร่ ที่เป็นส่วนของบ้านพัก 45 หลัง และ พื้นที่ว่างเปล่าอีกจำนวนหนึ่ง จะดำเนินการรับมอบคืนมาก่อน
ด้านนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายของคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า จากการเรียกร้องของคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพมาเป็นระยะเวลา 4 ปี ทางเครือข่ายรู้สึกยินดีที่ได้รับมอบพื้นที่ป่าแหว่งบางส่วนกลับคืนมา หลังจากนี้อีกประมาณ 1 เดือน เครือข่ายจะเข้ามาดำเนินการปลูกป่า โดยชักชวนมวลชนเข้ามาปลูกป่า พร้อมทั้งทำพิธีฮ้องขวัญดอยสุเทพ
ส่วนการรื้อนถอนบ้านพักนั้นตามมติของเครือข่ายจะต้องรื้อเท่านั้น แต่ยังติดขั้นตอนทางกฎหมาย แต่หากไม่สามารถรื้อได้ตามขั้นตอนทางกฎหมายทางเครือข่ายจะเดินหน้าฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้ง ทั้งนี้รวมถึงคอนโดมิเนียม 9 หลัง ที่ต้องรื้อออก ทั้งนี้ในส่วนของคอนโดมิเนียม 9 หลัง ยังอยู่ระหว่างการเจรจา
โดยทางเครือข่ายจะให้เวลากับทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 ถึงวันที่ 7 กันยายน 2565 เพื่อให้ข้าราชการมีเวลาเตรียมย้ายออก เนื่องจากตามข้อตกลงที่คณะกรรมการระบุไว้คือให้ข้าราชการอยู่ได้จนกว่าศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่จังหวัดเชียงรายจะสร้างเสร็จ โดยตามกำหนดจะต้องก่อสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 7 กันยายน 2565 แต่ขณะนี้ยังพบปัญหาศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่เชียงรายก่อสร้างไปได้เพียง ร้อยละ 10 และยังติดขัดเรื่องการยุติสัญญาก่อสร้าง โดยคาดว่าจะไม่สามารถก่อสร้างต่อได้ และจะต้องยืดเยื้อต่อไปอีกหลายปี
อย่างไรก็ตามเครือข่ายยังคงยึดเวลาตามกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 7 กันยายน 2565 เป็นหลัก โดยอาจจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม 9 หลัง ทยอยย้ายออกไป เพื่อคืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ต่อไป และเครือข่ายจะได้เข้ามาดำเนินการปลูกป่าลบรอยแหว่งของป่าผืนนี้ต่อไป
ข่าว/ภาพ : นิศานาถ กังวาลวงศ์ ศูนย์ข่าวเนชั่นภาคเหนือ