ลำดับชั้นของ 3 ตำแหน่งที่ว่านี้ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ และมีกฎหมายรองรับ ตามสไตล์ของ "วิษณุ เครืองาม" รองนายกฯ ได้แบบนี้
ลำดับที่ 1 นายกฯรักษาการ มีอยู่แล้วในกฎหมาย และจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติหากนายกฯ เจออุบัติเหตุทางการเมือง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จนไม่สามารถทำหน้าที่ได้ โดยนายกฯรักษาการที่ว่านี้ คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ "บิ๊กป้อม" (อันดับ 1)
ลำดับที่ 2 นายกฯสำรอง ภาษากฎหมายเรียก "รายชื่อนายกฯในบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอ" เสนอตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งปี 62 พรรคหนึ่งเสนอได้ 3 คน ไม่ซ้ำกันกับพรรคอื่น ซึ่งตำแหน่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อ นายกฯ ประยุทธ์ เจออุบัติเหตุการเมืองแล้ว และ "บิ๊กป้อม" เป็นนายกฯรักษาการแล้ว จากนั้นจะมีการซาวเสียง เพื่อเลือกนายกฯคนใหม่
นายกฯสำรองในความหมายนี้มี 5 คน ไม่นับลุงตู่ ประกอบด้วย เสี่ยหนู อนุทิน เดอะมาร์ค อภิสิทธิ์ หญิงหน่อย คุณหญิงสุดารัตน์ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ และ ชัยเกษม นิติสิริ
ลำดับที่ 3 "นายกฯนอกบัญชีพรรคการเมือง" หรือ "นายกฯคนนอก" จะเกิดเมื่อการเลือกนายกฯในบัญซี ทำไม่ได้ หรือทำไม่สำเร็จ ก็จะมีการสรรหานายกฯคนนอก แต่ต้องใช้เสียงอนุมัติ 2 ใน 3 ของรัฐสภา คือ เสียงเต็ม 500 ของสภา ส.ส. บวกกับ ส.ว. เป็น 750 เสียง
เรื่องราวก็เป็นแบบนี้ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ดูเหมือน "นายกฯสำรอง" จะเป็น "ของร้อน" ทำให้ไม่มีคนอยากยุ่ง
โดยคนแรก "บิ๊กป้อม" ที่ถูกจับชูเป็นนายกฯสำรอง ซึ่งวานนี้เดินผ่านผู้สื่อข่าว และไม่ยอมตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น
คนที่ 2 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีรายชื่อเป็นนายกฯสำรอง ในความหมายของ "นายกฯในบัญชีพรรคการเมือง" เจ้าตัวตอบชัด ไม่รับเป็นนายกฯสำรอง ไม่คิดกลับไป ซึ่งไม่ชัดว่ากลับไปพรรคเพื่อไทย หรือกลับสนามการเมืองใหญ่ และสรุปว่า ไม่คิดถึงการเมืองสนามใหญ่ คิดแต่สนามผู้ว่าฯกทม.เท่านั้น
คนที่ 3 ชัยวุฒิ หรือ มิสเตอร์โน ปฏิเสธทุกเรื่อง...ไม่มีอะไร ไม่ใช่อย่างนั้น ฯลฯ บอกว่า ไม่มีการเตรียมนายกฯสำรอง เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองไปไม่ถึงนายกฯสำรอง เพราะนายกฯรักษาการ จะชิงยุบสภา
ซึ่งประเด็นนี้น่าสนใจ และเป็นจุดหักเหทางการเมืองที่สำคัญ ซึ่ง "ข่าวข้นคนข่าว" ได้เจาะลึกว่าหลังจากนี้ทำได้จริงหรือไม่
ถามว่าทำไมเรื่องนี้จึงเป็น "ของร้อน" ที่หลายคนพากันออกมาปฏิเสธ และจากการสอบถามทัศนะจากนักรัฐศาสตร์ ชื่อดัง 3 คน ได้คำตอบตรงกันว่า เพราะมันเป็นเกมการเมือง
โดย รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
-เป็นเกมการเมือง เพราะต้องการสร้างกระแสในช่วงที่กำลังจะมีการเปิดสมัยประชุมสภา
-ผูกโยงจากคำสัมภาษณ์ของ "ผู้กองธรรมนัส" ผนวกกับ "บิ๊กป้อม" ที่พูดทำนองว่า แคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่อาจมีมากกว่า 1 ชื่อ
-เรื่องนี้เกิดได้ไม่ง่าย กระบวนการซับซ้อน (มาตรา 272 วรรค 2 โหวต 2 ขยัก รวมเสียง 3 ขยัก คือ เข้าชื่อกึ่งหนึ่งของ 2 สภา => ขออนุมัติรัฐสภาเสียง 2 ใน 3 => กลับมาโหวตเลือกนายกฯ เสียงเกินกึ่งหนึ่งของ 2 สภาอีกที)
-อายุสภาชุดนี้จะหมด มี.ค.66 ถือว่าเหลือเวลาไม่มาก
-ปัญหาต่างๆ ที่รัฐบาลต้องเผชิญ ทั้งเศรษฐกิจ โควิด สงคราม หนักหนาสาหัสจริงๆ ไม่มีใครอยากเข้ามาเป็นนายกฯแบบนี้
-ดีลล้มนายกฯ ไม่ง่าย เพราะนายกฯมีคนหนุนพอสมควร
สอดรับกับทางด้าน รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
-เป็นแค่เกมการเมือง
-กลุ่มการเมืองบางกลุ่มอยากมีอำนาจต่อรอง และอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับฟัง
-ดีลล้มนายกฯ ไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่นายกฯคงระแวงอยู่บ้าง
-คาดว่ามีการต่อรองปรับ ครม.กันอยู่
สำทับด้วย ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
-เป็นเกมการเมือง
-โหมโรงก่อนเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
-นายกฯสำรองไม่ง่ายอย่างที่คิด