4 พฤษภาคม 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” เผยข้อมูลการระบาดของ โควิด19 สายพันธุ์ โอมิครอน BA.2.12.1 พบในสหรัฐฯถึง 38% อาจมีการแพร่ระบาดทั่วโลกในวงกว้างในเวลา 6-10 สัปดาห์ มีเนื้อหาดังนี้..
4 พฤษภาคม 2565 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 581,980 คน ตายเพิ่ม 1,635 คน รวมแล้วติดไปรวม 514,519,112 คน เสียชีวิตรวม 6,265,069 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 77.92 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 68.37 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 20.92 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 15.22
สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก และอันดับ 4 ของเอเชีย
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก แม้ว่าจำนวนเสียชีวิตที่รายงานจะลดลงมากตั้งแต่ 1 พ.ค. เพราะหน่วยงานไทยปรับการรายงานเหลือเฉพาะคนที่เสียชีวิตจากโควิด-19 (Death from COVID-19) ไม่รวมคนที่เสียชีวิตจากโรคร่วมและพบว่าติดเชื้อ (Death with COVID-19)
ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 30.92% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
หากดูจำนวนการติดเชื้อใหม่ต่อวัน รวม ATK ไทยเราจะติดอันดับ Top 10 ของโลกมาติดต่อกันยาวนานถึง 47 วันแล้ว ส่วนจำนวนการเสียชีวิตต่อวันนั้น ติดอันดับ Top 10 ต่อเนื่องมาแล้ว 18 วัน
ตารางเปรียบเทียบ BA.4, BA.5 ในแอฟริกาใต้ และ BA.2.12.1 ในอเมริกา
Topol E ได้ช่วยสรุปเป็นตารางเปรียบเทียบสายพันธุ์ย่อยของ Omicron ทั้งสามสายพันธุ์ที่ได้รับการจับตามองว่าจะนำไปสู่การระบาดซ้ำในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ข้อมูลปัจจุบันชัดเจนว่าทั้งสามสายพันธุ์แพร่ไวขึ้นกว่า BA.2 ที่ครองการระบาดในปัจจุบัน และไวกว่า BA.1 ที่เป็นพันธุ์ดั้งเดิมของ Omicron นอกจากนี้ยังดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากขึ้นด้วย
ปัจจุบัน BA.2.12.1 ระบาดไวขึ้นมากในอเมริกา โดยครองสัดส่วนราว 38% และคาดว่าจะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
หมอธีระ ระบุอีกว่า แนวโน้มการระบาดในปัจจุบัน ทวีปอเมริกา และทวีปแอฟริกานั้นกลับมาอยู่ในขาขึ้นชัดเจนอีกครั้ง และจากระลอกเก่าๆ ในอดีต หากคุมไม่ได้ การกระจายไปทั่วโลกก็มักจะเห็นผลในช่วงอีกราว 6-10 สัปดาห์ถัดมา แต่อาจเร็วกว่าเดิมได้ เพราะปัจจุบันการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ช่วงเวลาที่ไทยเปิดประเทศให้มีการเดินทางระหว่างประเทศเสรีมากขึ้นนั้น ย่อมมีความเสี่ยงสูงที่จะมีสายพันธุ์เหล่านี้เข้ามา และจะนำไปสู่การระบาดซ้ำ จึงต้องป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอระหว่างการดำรงชีวิตประจำวัน