ชาวเน็ตสวดยับ หลวงพี่โจ พระดาวดัง TikTok ทัวร์ทะเลตรัง รับอาบัติเบา ๆ

ช่วงนี้กระแสเกี่ยวกับพระสงฆ์กำลังร้อนแรงในโซเชียล หลังมีประเด็นอื้อฉาวเกิดขึ้นชนิดรัวรัว หนึ่งในนั้นคือ ประเด็นที่ชาวเน็ตมีการแชร์และวิจารณ์อย่างมากในวันนี้ (29 เม.ย.) จากกรณีที่มีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งที่ชื่อ sornnarin ซึ่งต่อทราบในภายหลังว่า คือ พระมหาศรนรินทร์ ธมฺมนรินฺโท หรือ หลวงพี่โจ พระผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่พรุ ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง จ.ตรัง พระดาว TikTok ชื่อดัง ที่ได้มีการโพสต์ภาพและคลิปขณะนั่งเรือไปท่องเที่ยวและเล่นลงน้ำทะเลตามเกาะแก่งต่าง ๆ ที่เบื้องต้นคาดว่า น่าเป็นทะเลตรัง และถ้ำมรกต 

 

ซึ่งในคลิปยังปรากฏภาพมีการใส่เสื้อชูชีพ พร้อมด้วยกับเจ้าอาวาสวัด และพระภิกษุอีกหลายรูปที่เดินทางไปด้วยกัน โดยมีการพูดบรรยากาศในคลิปถึงว่า วันนี้ก็มาถึงถ้ำมรกตแล้ว เดี๋ยวจะเข้าไปในถ้ำ จะเข้าไปลงน้ำลอดถ้ำ ก็มีโยมพี่หลายท่าน เดี๋ยวเราจะลงไปแช่น้ำ
 

ภายหลังที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาวิจารณ์ โดยส่วนมากระบุว่า ไม่เหมาะสมและไม่ใช่กิจของสงฆ์ รวมถึงมีการตั้งคำถามว่า ผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ เพราะไม่มีความสำรวมในที่สาธารณะชน ไปเที่ยวด้วยปัจจัยหรือเงินจากญาติโยมที่ทำบุญหรือไม่ ก่อนคลิปดังกล่าวจะถูกลบออกไปแต่ก็มีชาวเน็ตแคปไว้ได้ทัน 
 

 

ซึ่งภายหลัง หลวงพี่โจ และ หลวงพี่กอล์ฟ ซึ่งปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าว ได้ชี้แจงโดยยอมรับว่า เป็นพระสงฆ์ในคลิปจริง และยอมรับว่า อาจเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม เพราะการเล่นน้ำถือว่า ผิดวินัยของพระ เป็นอาบัติเบา ๆ

 

ส่วนวันดังกล่าวทางวัดได้มีโครงการบวชศีลจาริณี และบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ในช่วงวันที่ 1 - 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อจบโครงการลงในทุกปี ทางเจ้าอาวาสก็จะมีการนำพระพี่เลี้ยงก็คืออาตมา และหลวงพี่กอล์ฟ ไปฉันเพลที่ทะเลในทุกปี แต่ในปีนี้เป็นโอกาสพิเศษทางเจ้าอาวาสก็ได้พาโยมแม่ของเจ้าอาวาสไปด้วย เพราะโยมแม่ของเจ้าอาวาสเป็นคนที่ชอบทะเล หลังจากฉันเพลอาหารทะเลที่ชายหาดปากเมงเสร็จ ช่วงเช้าวันที่ 26 เม.ย. ก็เลยไปพักผ่อนกันที่หาดเจ้าไหม 1 คืน พร้อมเที่ยวเล่นชายหาดแถวนั้น 

 

 

 

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น นายเสน่ห์ สิงห์นุ้ย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ตรัง ระบุว่า เรื่องของพระภิกษุสงฆ์เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนในเรื่องวินัยและความเหมาะสม จะมีพระผู้ปกครองอยู่ มีพระวินยาธิการ ในเรื่องของวินัยนั้นมีกระบวนการพิจารณาของวินัยอยู่ว่าเหมาะสมหรือไม่ บางครั้งความคาดหวังของพุทธศาสนิกชนอาจจะมีต่อพระค่อนข้างเยอะ

 

แต่ในความเป็นวิถีของพระต้องมีการผ่อนบ้างบางเรื่อง แต่เนื่องจากสื่อที่ออกมาอาจจะทำให้ภาพบางภาพดูเหมาะสมบ้างหรือไม่เหมาะสมบ้างคนที่จะดูสื่อก็ต้องดูดุลยาพินิจพอสมควร ส่วนนี้ก็จะนำเรียนหลวงพ่อให้พิจารณาเรื่องความเหมาะสมจะได้ให้ความรู้ให้ข้อแนะนำในวัดในเขตปกครองให้มากขึ้นเพื่อนำความศรัทธา มั่นคงของพระพุทธศาสนาสืบไป

 

“การโพสต์สิ่งต่าง ๆ ลงบนโซเชียลของพระนั้นจะมองได้ 2 ลักษณะ หากมองด้านสิทธินั้นก็ต้องดูที่ข้อกฎหมายบ้านเมืองตามระเบียบ ในวินัยก็มีวินัยก็ต้องมองไปเป็นประเด็นไปไม่สามารถเหมารวมได้ การลงสื่อหากมองตามกฎหมายบ้านเมืองหากไม่สร้างความเดือดร้อนไม่หมิ่นประมาทใครอยู่ในวิสัยที่ข้อกฎหมายไม่ได้บังคับ

 

ในส่วนวินัยจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียหรือไม่อย่างไรนั้น ก็จะมีพระสงฆ์ที่ต้องทบทวนวินัยกันอยู่สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้ไม่ถูกใจคนดูบ้าง ก็ต้องให้ความรู้และข้อแนะนำ ตักเตือนกันเพราะทุก ๆ 15 ค่ำก็จะมีการทบทวนอยู่อะไรที่เป็นโลกาวัชชะก็จะได้สำรวมมากขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องช่วยเหลือเกื้อกุลกันธำรงพระพุทธศาสนา ทั้งฝ่ายภิกษุ บรรพชิตและฝ่ายคฤหัสถ์ ต้องร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อให้พระพุทธศาสนาได้ดำรงอยู่ได้สถาพรตลอดไป”

 

 

 

 

ขณะที่ พระครูเมธากร รัครูสมุจำเลือง ฐิตเมโธ เจ้าอาวาสวัดไร่พรุ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยเตือนแล้วในเรื่องเหล่านี้ด้วยความหวังดี แต่ครั้งนี้อาจจะเกิดเพราะอาตมาประมาทเองจะโทษลูกศิษย์ไม่ได้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะอาตมาหวังดีหลังจากเสร็จงานแล้วก็พาไป ซึ่งจัดขึ้นทุกปีแต่ครั้งนี้นำไปลงสื่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ให้สิ่งที่ดีและไม่ดีกระแสครั้งนี้ถือว่าเป็นด้านลบ เราก็ต้องระวังไว้ครั้งหน้า

 

ความจริงแล้วเป็นเรื่องปกติของชาวโลก พระก็เป็นบุคคลที่ยังมีกิเลสแต่เราก็ระวัง ก็พาโยมแม่ไปด้วยไปกันหลาย ๆ คนเพื่อป้องกันข้อครหา แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนและเป็นส่วนที่อาตมาต้องเฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้นด้วย ปกติการเที่ยวพระก็เที่ยวอยู่แล้วเมื่อต้องออกไปบิณฑบาตตอนเช้า การไปเที่ยวครั้งนี้ก็คิดว่าเหมาะสมหากไม่ออกสื่อ

 

เมื่อออกสื่อไปแล้ว โดยเฉพาะการแต่งเนื้อแต่งตัว หรือคำพูด ชาวบ้านก็จะมองถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควร การเล่นน้ำก็มีความผิดเป็นอาบัติ คราวหน้าคราวหลังก็ต้องระวังและอย่าทำอีก ช่วงนี้พระเรามีข่าวแง่ลบเยอะ แง่ดีก็ไม่เห็นและไม่ได้ออกสื่อ ไม่เป็นที่น่าสนใจมากนัก เรื่องนี้ก็จะฝากผ่านสื่อในฐานะที่เป็นเจ้าอาวาส อาจจะนำพาลูกศิษย์ไป ลงสื่อแล้วไม่ทันระวัง ต้องขอโทษที่ทำให้คนไม่สบายใจ