svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"อนุทิน" ชู "ไมซ์" ฟื้นเศรษฐกิจหลังไทยปลอดโควิด

26 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นายอนุทิน ชาญวีรกูล เตรียมดึงอุตสาหกรรมไมซ์ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด เผยมาตรการควบคุมโรคต่างๆ จะค่อยๆลดระดับลง สอดรับกับการเปิดประเทศ 1 พฤษภาคมนี้ ประเดิมการประชุมเอเปค2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ย้ำมาตรการ 3 พอ เอาอยู่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานเปิดงาน วันจัดประชุมและนิทรรศการแห่งชาติหรือ ไมซ์เดย์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ภายใต้แนวคิด ไมซ์ไทย ก้าวสู่วันอันยิ่งใหญ่  ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ 26 เมษายนของทุกปี เป็นวันจัดประชุมและนิทรรศการแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมการตระหนักและความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ ที่เชื่อมโยงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ  โดยภายในงานยังได้มีการเปิดตัวแบรนด์อุตสาหกรรมไมซ์ประเทศไทยสำหรับตลาดต่างประเทศด้วย  อีกทั้ง ยังคงตอกย้ำความสำคัญอุตสาหกรรมไมซ์  ที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ 

 

โดยไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพในทางด้านการจัดงานระดับโลกที่มีเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรมและระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย  รวมถึงมีมาตรการทางด้านสาธารณสุขในการรองรับกาจัดงาน

 

ดร. อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ องค์การมหาชน ระบุว่า  ในช่วงที่ประเทศไทยได้มีการเปิดประเทศ และมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ  อุตสาหกรรมไมซ์ไทย จะเป็นหนึ่งในอุตสหกรรมที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ  โดยจะมีจำนวนผู้เดินทางในการเข้าร่วมอุตสาหกรรมไมซ์กว่า 195 ล้านคน  สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจหมุนเวียนกว่า  1.8 ล้านล้านบาท

 

โดยประเทศไทยเตรียมพร้อมในการที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลก เช่น การประชุมเอเปค 2022 , งานมหกรรมพืชสวนโลกปี 2026  และ งานระดับโลกอื่นๆ

 

นายอนุทิน ระบุว่า ต่อจากนี้จะเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ ในการขับเคลื่อนทางด้านเศรษฐกิจ หลังโควิด-19 ระบาด  ไทยสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี  หากไทยดำเนินการตามมาตรการที่วางไว้  ก็จะทำให้ไทยเปิดประเทศได้มากขึ้น  ทำให้ชาวต่างชาติและประชาชนในประเทศสามารถที่จะเดินทางไปมาหาสู่กันได้    

 

โดยจะเริ่มใช้มาตรการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ วันที่ 1 พฤษภาคม นี้ ขอให้มั่นใจว่ามีการเตรียมพร้อมประเมินสถานการณ์ไว้เป็นอย่างดี  หากมีปัจจัยเสี่ยงหรือเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็มีแผนรองรับ กระทรวงสาธารณสุข มองว่าวันนี้ มีการเปิดประเทศ เรามีมาตรการรองรับ ภายใต้ 3 พอ  คือ  ยาพอ หมอพอ เวชภัณฑ์ และเตียงพอ

 

โควิด-19 ในปัจจุบันนี้ หากมองแต่การติดเชื้อรายวัน ก็คงไม่ได้เดินหน้าในเรื่องอื่นๆ เศรษฐกิจก็จะไม้ขับเคลื่อนต่อไปได้หากเข้มมาตรการเกินไป  เช่น ในต่างประเทศที่มีการควบคุมเข้มงวด สุดท้ายก็ต้องมีการเปิดประเทศอยู่ดี ประชาชนต้องเข้าใจธรรมชาติของไวรัสโควิดและการป้องกันตัวเองอย่างดี

โดยตอนนี้ สำหรับประเทศไทย เน้นในการเฝ้าระวังโควิด-19 กลุ่มผู้ป่วยอาการหนัก รวมถึงอัตราการเสียชีวิตให้อยู่ในหลักเกณฑ์ มาตรฐานการแพทย์รองรับให้ได้  ยืนยันว่ายามีเพียงพอ รวมถึงวัคซีนมีเพียงพอในการที่จะให้ประชาชนในประเทศฉีดเข็มกระตุ้นและมีการศึกษาภูมิหลังรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3 พบภูมิขึ้นดี และหากฉีดครบ 4 เข็ม อัตรการเสียชีวิตจะต่ำ

 

ส่วนการเสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 120 กว่าคน  ตอนนี้พยายามที่จะจำแนกรายละเอียดในการเสียชีวิตจากโควิด ว่ามีสาเหตุอะไรบ้าง  เพื่อเป็นข้อมูลให้กับประชาชน ย้ำกระทรวงสาธารณสุขมีการประเมินสถานการณ์โควิด-19 ในทุกๆด้านตลอด รวมถึง การพิจารณา ปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่นปัจจัยในเรื่องของวัคซีน 

 

ทั้งนี้ มาตรการเข้มข้นต่างๆ ก็จะลดระดับลงตามสถานการณ์  ซึ่งจะสอดคล้องกับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบเพื่อเดินหน้าทางด้านเศรษฐกิจ

 

นายอนุทิน ระบุถึงในช่วงสงกรานต์ที่มีการให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาโดย มองว่า  ระบบสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่มีโรงพยาบาลประจำจังหวัด ทุกอำเภอ มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในการรองรับ รวมถึง อสม. ในการช่วยดูแลให้ความรู้ประชาชน
 

logoline