ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 16 เม.ย.ที่ ศปก.สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ พล.ต.ต.ธรรมจักร คงมงคล ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.วิชยานนท์ นิติกุล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ ได้แถลงผลการติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยิงปืนหน้าเวทีหมอลำซิ่งภายวัดโพนสว่าง บ้านโคกก่อง ต.โคกก่อง ซึ่งเป็นงานฉลองสงกรานต์ประจำปี ที่คณะกรรมการหมู่บ้านได้จัดขึ้น มีผู้ได้รับบากเจ็บจากการชุลมุนหลายรายขณะที่หมอลำซิ่งกำลังจะเลิกการแสดงร้องเพลง 5 เพลงสุดท้าย 2 ในจำนวนนั้น มีผู้ถูกกระสุนปืนไม่ทราบชนิดเช้าที่ขาและนิ้วมือ และตามไปยิงกันบนถนนสาย 212 บึงกาฬ-บุ่งคล้า จนเสียชีวิต 1 รายคือ นายทศพร หรือเบนซ์ แสงเลข อายุ 23 ปีหนุ่มเจ้าถิ่นที่มีเรื่องกับกลุ่มต่างถิ่นมาเที่ยวงาน คือกลุ่มบ้านนาทราย อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
พ.ต.ท.อรุณ รักสัตย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบึงกาฬ,พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ รอง ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ นำทีมชุดสิบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบึงกาฬ ตำราจกองปราบปราม ตำรวจน้ำ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจทางหลวง และชุดสืบสวน สภ.ศรีวิไล นำหมายศาลจังหวัดบึงกาฬ แยกกันติดตามตัวเข้าจับกุม1.นายณัฐพงษ์หรือตั้ม เสาทองหลาง อายุ23ปี ที่อยู่148บ้านโคกสำราญสามัคคี หมู่ที่8ต.ชุมภูพร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ2.นายสุดใจหรือไผ่ สุดดาวงศ์ อายุ37ปี ที่อยู่66/3บ้านนาทรายเจริญสุข หมู่ที่6ต.นาสิงห์ อ.ศรีวิไล3.นายทศพรหรือทศ พวงสุวรรณ อายุ30ปี ที่อยู่423หมู่ที่6บ้านนาทรายเจริญสุข ต.นาสิงห์ ตามหมายศาลคดีอาญาฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” หลังจากสอบปากคำพยานบุคคล พยานแวดล้อม จนสามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุยิงนายทศพรหรือเบนซ์ แสงเลข อายุ23ปีผู้ตาย หลังจากมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันภายในงานฉลองสงกรานต์ บ้านโคกก่อง หมู่ที่1ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ ตี 2 เช้ามืดวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา และมีผู้บาดเจ็บ2ราย
หลังจับกุม พล.ต.ต.ธรรมจักร คงมงคล ได้สอบปากคำผู้ก่อเหตุทั้ง3รายด้วยตนเอง โดยนายณัฐพงษ์หรือตั้ม มือยิง สารภาพว่าคืนเกิดเหตุหลังจากหมอลำซิ่งกำลังจะเลิกการแสดง ได้เกิดเหตุชุลมุน วุ่นวายขึ้นที่หน้าเวทีหมอลำซิ่ง ตนได้เข้าไปดึงแขนนายสุดใจหรือไผ่ มือมีด ลูกพี่ที่อยู่ในงานเกรงว่าจะไปทำร้ายคนอื่น ขณะที่พานายไผ่ออกมาถึงรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าวัด กลุ่มเจ้าถิ่นบ้านโคกก่องวิ่งถืออาวุธตามมาจำทำร้ายเกรงจะได้รับอันตราย จึงเปิดเอาปืนที่ซ่อนไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ยิงขึ้นฟ้าไป2นัด จากนั้นก็ทิ้งรถวิ่งหลบหนีออกมารอเพื่อนที่บริเวณ3แยกบ้านโคกก่องหน้าป้อมสายตรวจ ทางไปบ้านไร่สุขสันต์ ขณะที่ยืนโทรศัพท์ ให้น้องอีกคนมารับ ผู้ตายและเพื่อนได้ถือมีดวิ่งข้ามถนนจะมาทำร้ายอยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตร จึงยิงปืนสวนออกไป1นัด โดยไม่หวังผล ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนดัดแปลง ใช้แม็กกาซีน ขนาด380.มม ได้สั่งซื้อผ่านเพจในราคา20,000บาทมาเก็บไว้นานแล้ว หลังเกิดเหตุตนได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ที่น้องอีกคนขี่มารับกลับบ้านพร้อมนายไผ่ ส่วนนายสุดใจหรือไผ่ มือมีด)ยังให้การภาคเสธ ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวน นายไผ่พร้อมกับเพื่อนได้วิ่งเข้าไปทำร้ายผู้ตายซ้ำขณะทรุดตัวในอู่ซ่อมรถหลังถูกคมกระสุนปืนที่นายตั้มยิงเข้าใส่ โดยได้ใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 15 ซม.แทงซ้ำก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถหลบหนี จนอาการสาหัสถูกนำส่ง รพ.บึงกาฬและเสียชีวิตก่อนถึงห้องฉุกเฉิน
ส่วน นายทศพรหรือทศ พวงสุวรรณ ที่ตำรวจสามารถตามจับกุมมาทีหลังตกเป็นผู้ต้องหารายที่ 3 จากการสืบสวนสอบสวน เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังของการก่อเหตุในครั้งนี้ และก็เป็นผู้ขับรถยนต์กระบะ ที่จอดรออยู่บริเวณสามแยกพากลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีกลับบ้าน และในการจับกุมครั้งนี้ นายทศก็ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมกันกับกลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุแต่อย่างใด
หลังสอบปากคำ พล.ต.ต.ธรรมจักร คงมงคล ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวว่าเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 3 คนว่า“ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต” และหลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้นหากมีประเด็นเพิ่มเติมเข้าข่ายความผิดก็จะแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมอีก คดีนี้ผู้บังคับบัญชาและประชาชนให้ความสนใจ และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ จนนำไปสู่การจับกุมที่รวดเร็ว ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ร่วมกันบูรณาการจนสามารถตามจับกุมผู้ก่อเหตุนำตัวมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว คงจะไม่มีการทำแผนแต่อย่างใดเพราะผู้ต้องหาเกรงจะไม่ปลอดภัยถือว่าปิดคดีนี้ได้ด้วยดี และเป็นไปตามกำหนดภายใน 2 วันที่ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4กำชับเอาไว้
ภาพ/ข่าว : นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี สำนักข่าวเนชั่น จ.บึงกาฬ