ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย "ปริญญ์" พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ได้รับการประกันตัวแล้ว โดยมีเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
โดยพนักงานสอบสวน สน. ลุมพินี ยื่นคำร้องฝากขังผ่านระบบ Video Conference รวม 3 สำนวน หมายเลยดำ ฝ.173/2565 (คดีอนาจารฯ), ฝ.174/2565 (คดีอนาจารฯ), ฝ.175 /2565 (คดีข่มขืนฯ)
โดยศาลอนุญาตให้ฝากขังเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 17-28 เม.ย.นี้ โดยผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยชั่วคราวทั้ง 3 คดี
โดยศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวตีราคาประกันในคดีหมายเลขดำฝ.173,174/2565 สำนวนละ 200,000 บาท
และคดีหมายเลขดำ ฝ.175/2565 จำนวน 300,000 บาทโดยกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้แจ้ง สตม.ทราบ
โดยศาลอนุญาตให้ฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 เม.ย.65 โดยผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยชั่วคราวทั้ง 3 คดี ก่อนศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกันในคดีหมายเลขดำฝ.173,174/2565 สำนวนละ 200,000 บาท และคดีหมายเลขดำ ฝ.175/2565 จำนวน 300,000 บาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขอื่น
โดยเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ ทาง พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผบช.น.ดูแลงานกฎหมายและคดี พ.ต.อ.ทินกร สมวันดี รองผบก.น.5 พร้อมด้วยตำรวจสน.ลุมพินี ควบคุมตัว นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาคดีอนาจารต่อหน้าธารกำนัล 2 คดี และข่มขืนกระทำชำเรา 1 คดี รวม 3 คดี ส่งศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อฝากขังหลังศาลไต่สวนอนุญาตฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนท์ที่สถานีตำรวจ
พล.ต.ต.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ยื่นคำร้องขอฝากขังแล้ว ศาลได้พิจารณาแล้ว ทางพนักงานสอบสวนสน.ลุมพินี ทำคำร้องขอฝากขังและคัดค้านการประกันตัว ผู้ต้องหาขอยื่นขอประกันตัวแต่เนื่องจากผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่เมืองนอกเป็นเวลานาน จึงขอร้องต่อศาล หากขออนุญาตให้ประกันตัว ขอให้กำหนดเงื่อนไขห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ส่วนการให้ปากคำเพิ่มเติมของผู้ต้องหานั้น ทางผู้ต้องหามีความพร้อมในต่อสู้คดีดังกล่าว เบื้องต้นให้การปฏิเสธ ส่วนมีความหนักใจอะไรหรือไม่ ยืนยันตั้งแต่วันแรก ที่ผ่านมาตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมาตรงมา รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ กรณีผู้ต้องหาเข้าพบก่อนออกหมายก็ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่หนักใจ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายและผู้ต้องหาดำเนินการตามสิทธิ์ที่พึงกระทำได้