svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

รฟท.ฟ้องกรมที่ดินเรียก 700 ล้าน ปมที่ดิน 'เขากระโดง'

13 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รฟท. ยืนยันดำเนินการแก้ปัญหาที่ดินของรถไฟทั่วประเทศอย่างจริงจัง บนหลักการที่ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด และโปร่งใสพร้อมทั้งยึดหลักธรรมาภิบาลและมีจริยธรรมอย่างเหมาะสม

ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย นิรุฒ มณีพันธ์ ระบุ กรณีที่ดินเขากระโดง ถือเป็นเป็นปัญหาการมีเอกสารสิทธิ์ทับซ้อนบนที่ดินรถไฟ ซึ่งในกรณีนี้มีการยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. พิจารณา ซึ่งต่อมา ป.ป.ช.ได้มีมติให้กรมที่ดิน เพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 3466 และ 8564 ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ แต่ไม่ได้สั่งให้การรถไฟฯ ไปฟ้องประชาชน ประกอบกับเมื่อปี 2561 ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาในคดีที่ราษฎรฟ้องการรถไฟฯ ให้ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินของการรถไฟฯ โดยศาลเชื่อข้อเท็จจริงตามแผนที่การรถไฟฯนำเสนอว่า พื้นที่เขากระโดงจำนวน 5,083 ไร่ เป็นกรรมสิทธิ์ของรถไฟ แต่คำพิพากษาจะผูกพันเฉพาะคดีนั้นๆ ไม่สามารถเอาคำพิพากษาไปบังคับกับที่ดิน 5,083 ไร่ได้

 

การรถไฟฯ จึงได้นำแนวทางคำพิพากษาดังกล่าว มาดำเนินการขอเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินนอกเหนือจากรายที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาแล้ว โดยทำหนังสือถึงกรมที่ดินให้วินิจฉัยว่าการออกโฉนดเหล่านั้นถูกต้องหรือไม่ แต่ปรากฏว่าเมื่อครบกำหนด 90 วัน กรมที่ดินกลับไม่ได้พิจารณาตอบกลับมา การรถไฟฯ จึงได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง หมายเลขดำที่ 2494/2564 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ฟ้องกรมที่ดินเป็นจำเลยที่ 1 และอธิบดีกรมที่ดินเป็นจำเลยที่ 2 ในฐานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าไม่ดำเนินการตามที่การรถไฟฯ ร้องขอ และไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทับที่ดินของรถไฟ ซึ่งศาลปกครองกลางได้รับฟ้องไปแล้วเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565

ขณะเดียวกันยังยื่นเรียกร้องค่าเสียหายเป็นวงเงินประมาณ 700 ล้านบาทกับกรมที่ดิน ซึ่งเป็นการประเมินจากรายได้ที่การรถไฟฯ ต้องสูญเสียไป ไม่รวมดอกเบี้ยจากการที่กรมที่ดินไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์นับตั้งแต่วันที่มีคำพิพากษาศาลฎีกา

รฟท.ฟ้องกรมที่ดินเรียก 700 ล้าน ปมที่ดิน 'เขากระโดง'

ปัจจุบัน ที่ดินที่การรถไฟฯ ได้ยื่นให้ศาลปกครองตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิมีทั้งหมด  5,083 ไร่ มีผู้ถือครองเอกสารสิทธิ์ประมาณ 900 ราย แบ่งเป็นโฉนดที่ดินจำนวน 700 ราย ที่มีการครอบครอง (ท.ค.) จำนวน 19 ราย น.ส.3ก. จำนวน 7 ราย หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) จำนวน 1 ราย ทางสาธารณประโยชน์ จำนวน 53 แปลง และอื่นๆ ที่ไม่ปรากกฎเลขที่ดินในระวางแผนที่อีกจำนวน 129 แปลง

ยืนยันว่าพร้อมจะดำเนินการนำที่ดินทั้งหมดกลับมาเป็นทรัพย์สินของการรถไฟฯ แต่จะไม่ฟ้องร้องตรงต่อประชาชน โดยหลังจากนี้จะต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองให้มีคำวินิจฉัยถึงที่สุด

 

สำหรับแนวทางแก้ปัญหาการบุกรุกเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินของการรถไฟ ฯ มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ การบุกรุกที่ดินแบบไม่มีเอกสารสิทธิ์ และการเข้าไปใช้ประโยชน์ โดยมีเอกสารสิทธิ์ทับซ้อนกับที่ดินรถไฟ ซึ่งจะมีการดำเนินการแก้ไขที่แตกต่างกัน โดยปัจจุบันมีกรณีผู้บุกรุกเข้าครอบครองที่ดินรถไฟฯ โดยไม่มีเอกสารสิทธิ์ทั่วประเทศ 18,822 ราย ประกอบด้วย พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 1,538 ราย สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 911 ราย  นครราชสีมา ขอนแก่น ศรีสะเกษ และจังหวัดอื่นรวม 3,045 ราย และพื้นที่อื่นๆ 12,459 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ได้รวมถึงกรณีชาวบ้าน 100 ครัวเรือนที่เข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณริมทางรถไฟมักกะสันโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย ซึ่งการรถไฟฯ ได้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีการเจรจากับผู้บุกรุกเพื่อขอคืนพื้นที่ดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินแล้ว 

รฟท.ฟ้องกรมที่ดินเรียก 700 ล้าน ปมที่ดิน 'เขากระโดง'

ส่วนอีกกลุ่มกรณีผู้ถือเอกสารสิทธิ์ทับซ้อนกับที่ดินรถไฟ โดยมีการออกเอกสารสิทธิที่ดินเป็นเอกสารราชการอย่างถูกต้อง และอาศัยอยู่โดยสุจริตจำนวน 1,137 ราย ประกอบด้วย พังงา-ท่านุ่น 20 ราย อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 15 ราย บ้านโพธิ์มูล จ.อุบลราชธานี 2 ราย เขากระโดงจ.บุรีรัมย์ 900 ราย และพื้นที่อื่นๆ 200 ราย ซึ่งในส่วนนี้การรถไฟฯ จะไม่ดำเนินการกับผู้ถือเอกสารสิทธิ์เหมือนกับกลุ่มผู้บุกรุก เพราะการรถไฟฯ มองว่าประชาชนที่ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดินที่ออกโดยทางราชการ และอาศัยอยู่ในที่ดินตามเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว ยังเป็นผู้อาศัยอยู่ในที่ดินโดยสุจริต

รฟท.ฟ้องกรมที่ดินเรียก 700 ล้าน ปมที่ดิน 'เขากระโดง'

ผู้ว่าการ การรถไฟฯ ย้ำว่า ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินต่างๆ โดยยึดหลักจริยธรรม และหลักธรรมาภิบาล เพื่อความถูกต้อง โปร่งใส  ตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย และดำเนินการกับผู้บุกรุกทั่วประเทศด้วยความเท่าเทียม เสมอภาค ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย

 

 

logoline