svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

“บิ๊กโจ๊ก” ประสานตำรวจกัมพูชา บุกช่วยคนไทยถูกบังคับทำคอลเซ็นเตอร์

11 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“พล.ต.ท.สุรเชษฐ์” ประสานความร่วมมือตำรวจกัมพูชา บุกช่วยเหลือคนไทยถูกบังคับทำคอลเซ็นเตอร์ กลางเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา

จากการที่มีคนไทยถูกหลอกลวงมาทำงานในประเทศกัมพูชาจากการหางานผ่านสื่อโซเชียลเช่น Facebook twitter ว่ามีรายได้ดี ทำงานสบาย แต่เมื่อเดินทางมาถึงกลับพบว่าถูกบังคับให้ทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือหลอกลวงให้ลงทุน ทำให้คนไทยถูกหลอกลวงหลายร้อยล้านบาทต่อเดือน หากรายใดไม่ยินยอมที่จะทำงานผิดกฎหมายก็จะถูกทำร้าย ถูกขายต่อไปยังจุดอื่น ถูกกักขัง หรือถูกเรียกค่าไถ่

 

“บิ๊กโจ๊ก” ประสานตำรวจกัมพูชา บุกช่วยคนไทยถูกบังคับทำคอลเซ็นเตอร์

 

 

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานความร่วมมือกันระหว่างประเทศกันมาโดยตลอด จนสามารถช่วยเหลือคนไทยในประเทศกัมพูชามากกว่า 700 ราย และสามารถออกหมายจับในความผิดฐานค้ามนุษย์และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มแก๊งนำพาคนไทยที่ถูกหลอกลวงออกตามช่องทางธรรมชาติเพื่อมาทำงานในประเทศกัมพูชา ซึ่งล้วนมีผลให้ประเทศไทยอาจถูกลดอันดับการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จากทางการสหรัฐฯ ลงเป็นอันดับประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) ตามที่ทราบแล้ว

 

 

ต่อมาได้มีการดำเนินการสืบสวน ติดตาม จับกุมทลายเครือข่ายเพื่อช่วยเหลือคนไทยเดินทางกลับมายังประเทศไทย จนสืบทราบว่ามีเครือข่ายอยู่ตามเมืองต่างๆ ที่นำโดยคนจีน ลงมือกักขัง บังคับควบคุมคนไทย่ให้ทำผิดกฎหมายและมีคนไทยต้องการความช่วยเหลือ โดยส่งข้อมูลตามจุดที่ถูกควบคุมที่อยู่ในโรงแรม อาคาร ตึกร้าง โดยเชื่อว่ามีคนไทยมากกว่า 1,500 คน

ล่าสุด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ รอง ผอ.ศพดส.ตร. , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.๑ ,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ โชคชัย รอง ผบช.ทท. , พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. ,  พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.ตราด ร่วมประชุมหารือ กับพล.ต.ท.สม วรรณวีระ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ประเทศกัมพูชา ประสานความร่วมมือและดำเนินการสืบสวนตามข้อมูลที่ได้รับ

 

“บิ๊กโจ๊ก” ประสานตำรวจกัมพูชา บุกช่วยคนไทยถูกบังคับทำคอลเซ็นเตอร์

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา ได้เข้าช่วยเหลือคนไทยภายในอาคารทาวน์โฮมหรู 10  ชั้น เมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา มีเหล็กดัด รปภ. และกล้องวงจรปิด ป้องกันการหลบหนี พบคนดูแลเป็นหญิงกัมพูชา ไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยและตำรวจกัมพูชา เข้าพบคนไทย โดยอ้างว่ากลุ่มคนไทยทั้งหมดที่ถูกควบคุมอยู่นั้นติดหนี้สินในการทำงาน ต้องนำเงินจำนวน 1,500 ดอลลาห์ มาให้จึงจะได้รับการปล่อยตัว โดยระหว่างการเจรจาเริ่มมีปากเสียงกันระหว่างเจ้าหน้าที่ และกลุ่มคนจีน ใช้เวลาในการพูดคุยนานกว่า 8 ชม. จนสามารถนำคนไทยที่ต้องการความช่วยเหลือ จำนวน ๒๔ ราย ออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยมีบางรายเมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยถึงกับร้องไห้หลั่งน้ำตา โดยประสงค์จะขอเดินทางกลับบ้านโดยเร็วที่สุด

 

ขณะที่อีกชุดปฏิบัติการ เข้าตรวจค้นอาคารเป้าหมายอีก  2 จุดกลางกรุงพนมเปญ พบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อพยพหนีออกจากตึกก่อนตำรวจเข้าตรวจค้น เหลือเพียงห้องโล่งและโต๊ะ รวมทั้งเอกสารบางส่วน

 

 

โดยหลังจากการปฏิบัติการใน 2 เมือง ทั้ง 2 วันที่ผ่านมา กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ ได้นำคนไทยมาปล่อยข้างทางภายในเมืองพระสีหนุ อีกจำนวน 7  ราย รวมคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือ ทั้งสิ้น 31  ราย และจะมีการสอบสวนปากคำตามขั้นตอนกฎหมายของประเทศกัมพูชา

 

“บิ๊กโจ๊ก” ประสานตำรวจกัมพูชา บุกช่วยคนไทยถูกบังคับทำคอลเซ็นเตอร์

 

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า การทำงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากตำรวจกัมพูชา จนสามารถทำให้เราช่วยเหลือคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับไปยังประเทศไทย และจะประสานกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอขยายผลในการเข้าจุดอื่นๆ อีก ซึ่งจากการพูดคุยกับคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือออกมา มีบางคนพบเห็นการถูกทำร้าย กักขัง และข่มขู่เพื่อให้ยินยอมในการทำคอลเซ็นเตอร์ หรือการหลอกลวงคนไทยให้ได้ทรัพย์สิน โดยมีคนไทยยังถูกบังคับอยู่กว่า 1,500  ราย รวมทั้งเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้อีกด้วย

 

“บิ๊กโจ๊ก” ประสานตำรวจกัมพูชา บุกช่วยคนไทยถูกบังคับทำคอลเซ็นเตอร์

logoline