จากเมืองที่เคยเป็นบ้านเกิดของคอนสแตนติน ไซคอฟสกี้ (Konstantin Tsiolkovsky) นักวิทยาศาสตร์ด้านจรวดของโซเวียต จนถึงทุกวันนี้คาลูก้า (Kaluga) ก็ยังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมด้านอวกาศของรัสเซียแต่การทำมาหากินในวันนี้อยู่บนดินมากกว่าอยู่บนฟ้า
คาลูก้าอยู่ห่างจากกรุงมอสโกประมาณ 190 กิโลเมตร นับตั้งแต่ปี 2006 เมืองนี้ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนมากกว่า 1.3 ล้านล้านรูเบิลหรือกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่หลังถูกคว่ำบาตรเพราะรัสเซียบุกยูเครนคนงานนับพันคนที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องถูกพักงานในขณะที่ราคาสิ่งของอุปโภคบริโภคกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ บริษัทต่างชาติที่เข้ามาผลิตรถยนต์ก็กระทบอย่างหนัก หลายค่ายมีปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนและต้องหยุดการผลิตอย่างเข่นบริษัทโฟล์คสวาเกนของเยอรมนีและวอลโว่ของสวีเดน
โรงงาน PSMA Rus ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัทสเตลลานติส (Stellantis) และบริษัทมิตซูบิชิซึ่งมีพนักงานประมาณ 2,000 คนก็อาจจะต้องยุติการผลิตในไม่ช้านี้ เตอร์ปูกอฟช่างเชื่อมของบริษัทกล่าวว่ายังไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดเลย นับตั้งแต่ถูกคว่ำบาตรเขาต้องใช้เงินถึง 2 เท่าในการซื้อของในร้านชำ ตอนนี้กำลังหางานใหม่เพราะเชื่อว่าในเมืองยังมีงานอื่นให้ทำอีกเยอะ มีการตั้งกลุ่มกันทาง WhatsApp เพื่อแจ้งข่าวเรื่องงานกันตลอด
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อของรัสเซียอาจสูงถึง 24 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้และเศรษฐกิจของรัสเซียจะหดตัวเหมือนในปี 2009
ถึงอย่างน้้นความทุกข์ชาวรัสเซียก็ยังห่างไกลจากความทุกข์ของชาวยูเครนมากมายนัก การสังหารหมู่ประชาชนในเมืองบูชาทางภาคเหนือของยูเครนทำให้นานาชาติออกมาประณามประธานาธิบดีปูตินและรัสเซียอย่างรุนแรง สหรัฐและชาติยุโรปกำลังจะหาทางเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียให้หนักขึ้น
แม้รัสเซียจะปฏิเสธข้อกล่าวหาการสังหารพลเรือนโดยเฉพาะที่เมืองบูชาโดยกล่าวว่าเป็นการจัดฉาก แต่ก็ยากจะมีใครเชื่อเพราะบรรดาผู้สื่อข่าวหลายสำนักลงพื้นที่และเห็นด้วยตาต้วเอง
คาลูก้าซี่งมีประชากรประมาณ 325,000 คน นอกจากจะเป็นแหล่งผลิตรถยนต์ของ 3 บริษัทต่างชาติแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารและยา และมีโรงงานผลิตทีวีของซัมซุงด้วย
วาเลอรี่ ยูกลอฟ (Valery Uglov) ช่างเครื่องของโรงงานโฟล์คสวาเกนตั้งข้อสงสัยว่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่ที่ต้องคว่ำบาตรโรงงานของตัวเองและต้องสูญเงินมหาศาล สมเหตุสมผลหรือไม่ที่ต้องเสียตลาดรัสเซียไป เขาหวังว่าจะได้กลับไปทำงานโดยเร็วที่สุด
โฟล์สวาเกนมีพนักงานประมาณ 4,200 คน ยุติการผลิตมาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเนื่องจากสงครามเช่นเดียวกับวอลโว่กรุ๊ปซึ่งมีพนักงานกว่า 600 คน
ก่อนถูกคว่ำบาตร ยอดจำหน่ายรถยนต์ของโฟล์คสวาเกนในรัสเซียก็หดตัวลงจาก ปี 2007 ที่ 2.8 ล้านคันเหลือ 1.67 ล้านคันในปีที่แล้วเพราะผลกระทบท้้งจากถูกคว่ำบาตรในเหตุการณ์รัสเซียผนวกยูเครนและการระบาดของโควิด
อเล็กซานเดอร์ เนเตซอฟ โฟร์แมนของโฟล์คสวาเกนกล่าวว่าตอนนี้โดนพักงาน สถานการณ์ตอนนี้แย่กว่ามาก แต่ก็ยังรอคอยจะได้ทำงานต่อไป นอกจากต้องหยุดงานแล้ว รถยนต์คันใหม่ที่จองไว้และได้ส่วนลด ตอนนี้ราคากลับสูงขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์
ในเมืองอื่นๆซึ่งมีโรงงานผลิตอาหารและยารวมถึงโรงงานของซัมซุง พนักงานยังคงมองโลกในแง่ดีเพราะแทบทุกครั้งที่้รัสเซียมีปัญหาเศรษฐกิจตลอด 20 ปีที่ผ่านมามักจะตามมาด้วยการเฟื่องฟูอีกครั้ง
ผู้จัดการฝ่ายขายของโฟล์คสวาเกนกล่าวว่าแม้ราคาข้าวของตอนนี้จะแพงขึ้น สถานการณ์สั่่นคลอนแต่อนาคตอันใกล้น่าจะดีขึ้น ยอดขายน่าจะกลับมาดีอีกครั้ง
ช่างเสริมสวยอย่างอิริน่ากล่าวว่าช่วงแรกทุกคนต่างกังวล แต่ก็ยังมีความหวัง ตอนนี้อาหารขาดแคลน น้ำตาลไม่มีขาย ทุกอย่างแพงหมด แต่ก็ยังโอเคอยู่ หลายคนถูกลดเงินเดือนถึง 2 ใน 3 แต่ยังไม่ถึงกับถูกเลิกจ้างทั้งหมด
วีร่า อิวาโนวา วัย 86 ปีชาวเมืองคาลูก้าบอกว่าแม้รัฐบาลรัสเซียจะบอกว่าไม่ใช่ความผิดของพวกเขา เราไม่ได้แคร์ว่าใครผิดใครถูก แต่เราแคร์ว่าจะมีกินมีใช้หรือไม่ เชื่อว่ายังไงก็ต้องรอด เพราะตลอดชีวิตผ่านสงครามมาต้ั้งแต่เด็ก
คนที่ยังมีความหวังและอยากเที่ยวมากๆก็คืออิรินา ชามาเยว่าซึ่งบอกว่าปัญหาเดียวในขณะนี้ก็คือไปเที่ยวยุโรปไม่ได้เลย แต่นอกจากยุโรปแล้วก็ยังมีเอเชีย เราจะต้องไปเที่ยวเอเชีย ชีวิตผ่านวิกฤตมามากทั้งการล่มสลายของโซเวียต และสงครามในเชเชน เราต้องรอด ไม่ต้องห่วง รอเที่ยวดีกว่า
อย่างนี้ก็เข้าทางเมืองไทยเลย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเพิ่งเปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวใน 3 เดือนแรกของปีนี้ซึ่งพบว่าชาวรัสเซียมาเป็นอันดับ 1 อยู่ที่กว่า 51,000คน มากกว่านักท่องเที่ยวจากยุโรปชาติอื่นๆถึง 2 เท่า แต่ก็ยังไม่เท่าในสถานการณ์ปกติซึ่งมากกว่า1 ล้าน 5 แสนคน คนรัสเซียยังหวังจะเที่ยว เราก็หวังจะได้ต้อนรับมากขึ้น