ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติผ่านวิดีโอเมื่อวันอังคาร โดยเผยภาพคลิปสั้น ๆ ของศพที่ไหม้เกรียม โชกเลือด หรือฉีกขาด ในเมืองเออร์ปิน, ดีเมอร์กา, มาริอูโปล และบูชา ซึ่งทางยูเครนอ้างว่าทหารรัสเซียได้สังหารพลเรือนหลายร้อยคนในเมืองเหล่านี้ เขาบอกด้วยว่าทหารรัสเซียและผู้สั่งการจะต้องถูกดำเนินคดีและรับโทษทัณฑ์ จากการก่ออาชญากรรมสงครามครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
นอกจากนี้เขาตั้งคำถามถึงอำนาจของคณะมนตรีความมั่นคงที่มีสมาชิก 15 ชาติรวมถึงรัสเซีย หลังจากไม่สามารถดำเนินการใด ๆ กับรัสเซีย นับตั้งแต่เริ่มบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. เพียงเพราะรัสเซียมีอำนาจยับยั้งหรือวีโตเพื่อล้มมติใด ๆ เช่นเดียวกับชาติสมาชิกถาวรอีก 4 ชาติ
ผู้นำยูเครนประกาศว่า
"หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ก็จะจบลงที่แต่ละรัฐหันใช้อาวุธเพื่อรักษาความมั่นคงของตัวเอง แทนที่จะพึ่งกฎหมายระหว่างประเทศและสถาบันระหว่างประเทศ เมื่อนั้นสหประชาชาติก็ควรยุบไปเลย"
นอกจากนี้เขาบอกว่า หากไม่อยากยุบยูเอ็น ก็ควรมีการปฏิรูปในคณะมนตรีความั่นคงเพื่อเพิกถอนอำนาจวีโตของรัสเซีย ไม่ให้สามารถออกเสียงคัดค้านมติใด ๆ ของยูเอ็นที่เกี่ยวกับการกระทำของตัวเอง
แต่วาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยโต้แย้งว่าทหารรัสเซียไม่ได้พุ่งเป้าทำร้ายพลเรือนและข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นเป็นคำโกหก และยืนยันว่าระหว่างที่เมืองบูชาอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียก่อนจะถอนกำลังออกมาเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ไม่มีพลเรือนแม้แต่คนเดียวต้องประสบกับความรุนแรงใด ๆ
ส่วนเอกอัครราชทูตของจีนและอินเดีย เรียกร้องให้มีการสอบสวนหาความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองบูชา และลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เรียกร้องในที่ประชุมให้ชาติสมาชิกในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติออกเสียงระงับสมาชิกภาพของรัสเซียในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน